“นิกเกอิ เอเชียน รีวิว” สื่อยักษ์ใหญ่ด้านธุรกิจของญี่ปุ่น ตีพิมพ์บทความ ตั้งคำถามถึงนโยบาย Thailand 4.0 ของรัฐบาลพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยระบุว่า อาจเป็น “นโยบายที่สูญเปล่า”

โดยบทความชิ้นนี้ ถูกเขียนขึ้นโดย วิลเลียม เมลเลอร์ ผู้สื่อข่าวประจำฮ่องกง ซึ่งได้ตั้งข้อสงสัยว่า นโยบาย Thailand 4.0 อาจไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่รัฐบาลไทยคาดหวัง โดยอาจไม่สามารถช่วยให้ไทยหลุดพ้นจากการเป็น “ประเทศกำลังพัฒนา” และก้าวไปสู่การเป็น “ประเทศที่พัฒนาแล้ว” ได้สำเร็จภายในปี ค.ศ. 2037 อย่างที่พลเอกประยุทธ์ตั้งเป้าไว้

รายงานชิ้นนี้ระบุว่า แม้ที่ผ่านมารัฐบาลพลเอกประยุทธ์จะพยายามชูจุดขายของไทย ในเรื่องที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่เป็นศูนย์กลางของภูมิภาคอาเซียน ที่มีประชากรกว่า 3,500 ล้านคน และเป็นภูมิภาคที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงเป็นลำดับต้นๆ ของเอเชีย แต่ไทยยังคงต้องเผชิญกับอุปสรรคสำคัญ 2 ประการ ทั้งเรื่องศักยภาพในการแข่งขันของไทยที่ยังอ่อนด้อยกว่าชาติเพื่อนบ้าน รวมถึงปัญหาภาพลักษณ์ด้านการลงทุนในสายตาของนักลงทุนต่างชาติ

สื่อดังของญี่ปุ่นระบุว่า แม้ไทยจะได้ชื่อว่ามีเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองในภูมิภาคอาเซียน รองจากอินโดนีเซีย แต่ผลสำรวจของเวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัม กลับระบุว่า ขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยมีแนวโน้มลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง สวนทางกับบรรดาประเทศเพื่อนบ้าน ขณะที่ทางธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ยังคาดการณ์ว่า ในปี 2018 นี้ ทั้ง เวียดนาม กัมพูชา เมียนมาร์ ฟิลิปปินส์ และลาว จะมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจตั้งแต่ร้อยละ 6.8 – 7.1 ในขณะที่ไทยจะมีการเติบโตเพียงแค่ร้อยละ 4

ขณะเดียวกัน การที่ไทยยังคงอยู่ภายใต้การปกครองของรัฐบาลทหารที่ได้อำนาจมาจากการทำรัฐประหาร ยังถือเป็นอีกอุปสรรคที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ด้านการลงทุน ในสายตานักลงทุนชาวต่างชาติ ที่ให้ความสำคัญกับ ความเป็นประชาธิปไตย และทำให้ความหวังของไทยที่อยากกลายเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วภายใน 20 ปีข้างหน้า กลายเป็นเรื่องที่แทบจะ “เป็นไปไม่ได้”