ทำไมฉีด “วัคซีน” แล้ว ยังติด “โควิด-19” ได้อีก?
ทำไมฉีด “วัคซีน” แล้ว ยังติด “โควิด-19” ได้อีก? หลายคนอาจเคยมีประสบการณ์ หรือเคยได้ยินว่า ถึงจะฉีดวัคซีนแล้ว แต่ก็ยังเสี่ยงติดโควิด-19 ได้อยู่ จริงหรือไม่ แล้วเราจะฉีดวัคซีนกันไปทำไม อ. พญ.
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ดูเหมือนว่าจะส่งผลให้ความสูญเสียกลายเป็นสิ่งที่ใกล้ตัวเรามากขึ้นเรื่อยๆ การสูญเสียคนรักจากเหตุการณ์อย่างกะทันหันอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ไม่ทันได้สั่งเสีย ไม่ทันได้ร่ำลา นอกจากจะสร้างความเศร้าโศกเสียใจ ความเจ็บปวด บอบช้ำแล้ว ยังเป็นเรื่องที่ผู้สูญเสียยากที่จะทำใจยอมรับได้ แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่คนเราต้องทำเหมือนกัน คือการทำให้ตนเองสามารถผ่านพ้นจากช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปให้ได้
พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า กรมสุขภาพจิตตระหนักถึงปัญหาของประเทศไทยในขณะนี้ ที่เกิดเหตุการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นอกจากจะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มจำนวนมากขึ้นแล้ว ยังมีแนวโน้มที่จำนวนผู้เสียชีวิตจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้ประชาชนส่วนหนึ่งต้องสูญเสียบุคคลที่ตนเองรักหรือสมาชิกในครอบครัวไป ความสูญเสียที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นนี้ย่อมส่งผลกระทบต่อสุภาพจิตใจได้อย่างมากและอาจเกิดผลกระทบทางด้านสุขภาพจิตในระยะยาวได้
จากข้อมูลพบว่าเมื่อในครอบครัวมีผู้ป่วยจากโรคโควิด-19 ส่วนใหญ่ก็จะพบว่ามีสมาชิกในครอบครัวที่ป่วยพร้อมกัน หรือไม่ก็มีคนในครอบครัวบางคนเสียชีวิตจากโควิด ทำให้ผู้ที่ยังอยู่รู้สึกติดค้าง เหมือนจากไปโดยไม่ได้ร่ำลา ไม่ได้ไปส่ง ซึ่งเป็นเพราะเงื่อนไขการจัดงานศพให้กับผู้เสียชีวิต
“เมื่อต้องสูญเสียคนที่รักนั้น วิธีการดูแลใจหรือการรับมือกับการสูญเสีย ไม่มีวิธีการใดที่ตายตัว เพราะคนเราต่างก็มีรูปแบบการแสดงออก ระดับความรุนแรง และระยะเวลาที่แสดงถึงความโศกเศร้าที่แตกต่างกัน แต่ละปัจจัยนั้นย่อมมีผลทั้งสิ้น แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่คนเราต้องทำเหมือนกันคือการทำให้ตนเองสามารถผ่านพ้นจากช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปให้ได้ จึงอยากให้คิดเสียว่าตนเองยังเป็นที่รักและยังสามารถทำกิจกรรมอื่นๆ หรือเมื่อหายป่วยแล้วยังสามารถกลับไปทำพิธีต่างๆ ให้กับผู้เสียชีวิตเมื่อภายหลังได้”
ส่วนวิธีดูแลใจและการรับมือเมื่อต้องสูญเสียคนรักจากโรคโควิด-19 การเดินออกจากความเจ็บปวดในชีวิต อาจเริ่มจากการเผชิญหน้าและยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น จากนั้นสำรวจผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อตัวเราทั้งด้านบวกและด้านลบ และสุดท้ายหาทางแก้ไข เรียนรู้หรืออยู่ร่วมกับผลกระทบนั้น
โดยปกติแล้วความโศกเศร้าต้องคลี่คลายเมื่อเวลาผ่านไป 3-6 เดือน แต่ถ้าได้พยายามทุกวิธีการแล้ว อาการโศกเศร้าไม่หายไป มีความยากลำบากในการใช้ชีวิตประจำวัน อาจต้องพบผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำการรักษาหรือโทรฯ ปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิตที่เบอร์ 1323 หรือ Line @1323 FORTHAI ตลอด 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้ขอเชิญชวนให้ผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 หรือกำลังแยกกักตัว หรือสูญเสียคนที่รัก ทำการประเมินสุขภาพจิตของตนเองด้วยแพลตฟอร์ม Mental Health Check In เพื่อให้ทราบว่าท่านกำลังมีความเสี่ยงต่อปัญหาความเครียด ซึมเศร้าหรือฆ่าตัวตายในระดับใด เพื่อเข้าสู่ระบบการดูแลรักษาด้านสุขภาพจิตได้อย่างรวดเร็วต่อไป
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่อง : วิธีรับมือเมื่อสูญเสียคนที่รัก จาก “โควิด-19”
เรื่องนี้ไม่อนุญาติ ให้แสดงความคิดเห็น