ปิดเมนู
หน้าแรก

วิธีดูแลผิวหน้าเพื่อป้องกันการเกิดฝ้า กระ

เปิดอ่าน 1,578 views

วิธีดูแลผิวหน้าเพื่อป้องกันการเกิดฝ้า กระ

สุดยอดครีมแก้ฝ้ากระ

ปัญหาผิวพื้นฐานของคุณผู้หญิงเรานั้น มักจะหนีไม่พ้นเรื่องของสิว ริ้วรอย จุดด่างดำ  ผิวหน้าหมองคล้ำ และปัญหาที่สำคัญคือการเกิดฝ้า กระ การรักษานั้นอาจจะต้องใช้เงินจำนวนมากและยังหายช้าอีกด้วย รู้อย่างนี้แล้วก็คงไม่อยากให้เกิดขึ้นกับตัวเรา แค่เรื่องสิวก็ทำให้จิตตกไปเยอะแล้ว ดังนั้น เรามาศึกษาไปพร้อมๆกันเลยค่ะ ว่า ฝ้า,กระ นั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร แล้วเราพอจะมีวิธีป้องกันได้หรือไม่

เนื่องจากชั้นผิวหนังของเรานั้นมีด้วยกันอยู่สามชั้น ชั้นแรกก็คือชั้นหนังกำพร้า ตรงชั้นล่างสุดของชั้นหนังกำพร้านั้นจะมีเซลล์สร้างเม็ดสีของผิวที่เรียกว่า เมลานิน แต่ละเซลล์ก็จะจับตัวกับเซลล์อื่นๆ ในลักษณะแตกแขนงออกไปเหมือนรากแก้วของต้นไม้นั่นเอง การเกิดฝ้านั้นก็คือการที่เซลล์เม็ดสีถูกรบกวน  อาจจะเกิดได้จากหลายๆสาเหตุ เช่น การโดนแสงแดดทำลายมากๆ ติดต่อกันเป็นเวลายาวนาน  การแพ้ยาบางชนิด การใช้เครื่องสำอางที่มีสารทำให้ผิวบางแล้วเกิดการแพ้ เป็นต้น ส่งผลให้เซลล์ที่สร้างเม็ดสีในบริเวณนั้นทำงานผิดปกติไป จึงทำให้เกิดเป็นรอยปื้นสีน้ำตาลเข้มขึ้นกว่าสีผิวจริงอย่างเห็นได้ชัด จึงเรียกลักษณะแบบนี้ว่า การเกิดฝ้านั่นเอง

กระ

จะเป็นลักษณะของสีผิวที่เปลี่ยนแปลงไปเหมือนกับฝ้า คือมีสีน้ำตาลเข้ม แต่จะไม่เป็นปื้นใหญ่กินบริเวณกว้างแบบฝ้า  กระจะเป็นจุดสีน้ำตาลเข้มๆ เล็กๆ กระจายอยู่บริเวณใบหน้าเช่น ตรงโหนกแก้ม ,หน้าผาก,ข้างแก้ม ซึ่งกระนั้นเกิดจากการที่ผิวหน้าของเราบริเวณใดบริเวณหนึ่งถูกแสงแดดบ่อยๆ
สีของเมลานิน ณ จุดนั้นจะมีสีเข้มขึ้น แต่ถ้าช่วงฤดูหนาวอาจจะจางลงได้บ้าง เพราะมีแดดน้อย ส่วนใหญ่จะพบในคนที่มีอายุมากแล้ว วัยทำงานหรือวัยทอง

การป้องกันผิวหน้าไม่ให้เกิดฝ้า กร

ได้นั้นจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพียงแค่เราใส่ใจ มีวินัยในการดูแลผิวอย่างจริงจัง  ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวหน้าที่ได้รับมาตรฐาน ผ่าน อย. หลีกเลี่ยงแสงแดด หรือควรทาครีมกันแดดเพื่อป้องกันผิวหน้าจากรังสียูวี ก่อนที่จะออกไปข้างนอกทุกครั้ง  ยาบางชนิด เช่น ยาคุมกำเนิดเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดฝ้าได้ง่าย  หากจำเป็นที่จะต้องใช้ยาชนิดนี้ ก็ควรหาวิธีรักษาฝ้าอย่างถูกวิธี ทั้งการใช้ผลิตภัณฑ์เวชสำอาง,เครื่องสำอาง ที่มีส่วนผสมของ AHA  วิตามินซี หรือสารจำพวกที่ช่วยระงับการสร้างเซลล์เม็ดสีเมลานิน  หรืออาจจะใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์เข้าช่วย  แต่อาจจะมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นตามมาอีก ดังนั้นแล้วการดูแลผิวหน้านั้นจึงเป็นเรื่องที่สาวๆไม่ควรละเลยอย่างยิ่งจ้า

เราเคยสงสัยไหมว่าทำไมคนแต่ละคนมีสีผิวต่างกัน บางคนเคยขาวกลับคล้ำลง

หรือในทางกลับกัน บางคนเคยผิวคล้ำๆ อยู่แต่ผ่านไปสักพักหนึ่งกลับผิวดูขาวขึ้น การที่เราจะเข้าใจได้ว่า ทำไมคนเราแต่ละคนจึงมีสีผิวแตกต่างกันหรือเกิดการเปลี่ยนแปลงของสีผิวได้ ก็จะต้องทำความเข้าใจในกระบวนการที่ทำให้เกิดสิ่งเหล่านี้เสียก่อน  ซึ่งโดยหลักการแล้วความเข้มหรือสีของผิวนั้น ส่วนมากเกิดจากสิ่งที่เรียกว่าเม็ดสีเมลานิน (melanin) ซึ่งการจะมีสีคล้ำดำ หรือเป็นจ้ำๆ (ถ้าเป็นจ้ำ ไม่ว่าจะเป็นจ้ำสีแดง หรือสีดำคล้ำก็ตาม ก็กลายเป็นสิ่งที่เรียกว่า “ฝ้า” นั่นเอง) ก็ขึ้นกับว่า…. เม็ดสีเมลานินนี้เข้มขึ้นที่เรียกว่า เมลาโนเจเนสิส (melanogenesis) หรือกระบวนการเปลี่ยนแปลงเม็ดสีเมลานินนั่นเอง แล้วกระบวนการนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ด้วยความรุนแรงเท่าใดล่ะ ถ้าเราสามารถเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ได้ ก็จะเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของสีผิวที่เกิดขึ้น หรือแม้แต่สามารถควบคุมสีผิวได้ดีขึ้นค่ะ

ในผิวหนังเรา จะประกอบไปด้วยเซลล์ผิวหนังชนิดหนึ่งในชั้นหนังกำพร้าที่เรียกว่า เมลาโนไซต์ (melanocyte) ซึ่งเป็นเซลล์ที่มีจำนวนประมาณ 8% ของเซลล์ผิวหนังของชั้นหนังกำพร้า เซลล์นี้จะมีเม็ดสีที่เรียกว่า เมลานิน (melanin) อยู่ในถุงหุ้ม เมลาโนโซม (melanosome) ซึ่งเจ้าเซลล์เมลาโนไซต์จะส่งเม็ดสีเมลานินไปให้กับเซลล์ผิวหนังชั้นบนกว่าที่เรียกว่า คีราติโนไซต์ (keratinocyte – ผิวหนัง 90% จะประกอบไปด้วยเซลล์คีราติโนไซต์นี้) ทำให้เกิดเป็นสีของผิวหนังขึ้น

เม็ดสี เมลานิน (melanin) มีอยู่ 3 แบบ/สี คือ

  1. ยูเมลานิน (eumelanin) เม็ดสีเมลานินชนิดนี้จะเป็นเม็ดสีสีน้ำตาล-ดำ คนเอเซียและคนที่ผิวคล้ำทั้งหลายจะมีเม็ดสีนี้มากกว่าคนที่เป็นชนชาติผิวขาว
  2. ฟีโอเมลานิน (pheo-melanin) เป็นเม็ดสีสีแดงหรือที่เรียกว่า ออกซิฮีโมโกลบิน (oxyhemoglobin) หรือสีเหลือง ที่เรียกว่าแคโรทีน (carotene) อย่างที่เคยได้พูดถึงไปในบทความที่ผ่านมา ในคนผิวขาวจะมีเม็ดสีนี้มากกว่าคนผิวคล้ำ
  3. แบบผสม คือมีเม็ดสีเมลานินทั้งสองแบบผสมกัน เรียกว่า mixed melanin

ซึ่งการผสมสีต่างๆ ของเม็ดสีต่างๆ เหล่านี้ออกมา ก็จะทำให้คนแต่ละคนมีสีผิวที่แตกต่างกันได้มากมายและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว 

สีผิวของคนเราสามารถที่จะเข้มขึ้นหรือจางลงได้ จะเห็นได้ว่าเมื่อเราทำงานหรือถูกแสงแดดนานๆ ผิวของเราก็จะคล้ำลง หรือเมื่อเราย้ายไปอยู่ในประเทศที่มีภูมิอากาศต่างไปจากที่เราเคยอยู่ สีผิวก็อาจจะเปลี่ยนแปลงได้เช่นกัน แต่การที่สีผิวของเราเปลี่ยนไปเนื่องจากการผสมกันของเม็ดสีนั้น ตัวต้นเหตุก็คือจำนวนเม็ดสีต่างๆ ที่เปลี่ยนไป ซึ่งจะเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของเอนไซม์ที่เป็นตัวกระตุ้นการสังเคราะห์เม็ดสีเมลานินต่างๆ เรามาลองดูเอนไซม์ที่สำคัญเหล่านี้กันว่ามีอะไรบ้าง (ดูภาพประกอบบทความนี้จะช่วยให้เข้าใจได้ดีขึ้นค่ะ)

  1. เอนไซม์ไทโรซีเนส (tyrosinase) มีบทบาทมากที่สุดในการสังเคราะห์เม็ดสีเมลานิน ทำหน้าที่เปลี่ยนไทโรซีน (Tyrosine) ไปเป็นสารกึ่งกลาง (DOPA, DOPAquinone, DOPAchrome, DHI) จนกระทั่งได้ ยูเมลานิน (eumelanin) ซึ่งมีสีเข้ม (น้ำตาล-ดำ) ถ้าเอนไซม์นี้ทำงานมากเกินไป ก็จะทำให้เม็ดสีเมลานินถูกสร้างได้มากขึ้นและอาจจะได้เม็ดสีสีดำแบบยูเมลานินมากขึ้น ทำให้เกิดรอยดำ หรือ ฝ้า ได้ จึงมีการพยายามยับยั้งการทำงานของเอนไซม์นี้ด้วยสารบางชนิดเช่น วิตามินซี, แอลบูตีน (albutin), ลิกเคอริส (licorice) เพื่อลดการสร้างเม็ดสีดำมากเกินไป ทำให้ผิวขาวขึ้นได้ (เมื่อก่อนมีการใช้สารจำพวก ไฮโดรควิโนน ด้วย แต่ว่ามีผลข้างเคียงมากซึ่งควรหลีกเลี่ยง)
  2. เอนไซม์กลูตาไธโอน (glutathione) หรือ ซิสทีน (cysteine) จะมีบทบาทรองๆ ลงมา สาวๆ หลายคนอาจจะเคยได้ยินเรื่องของยากลูตาไธโอนใช่ไหมล่ะคะ นั่นล่ะที่เป็นการใช้งานผลข้างเคียงของยาชนิดนี้เพื่อทำให้ผิวมีสีชมพู คือจะเปลี่ยน DOPAquinone ไปเป็น ฟีโอเมลานิน (pheo-melanin) ได้มากขึ้นทำให้มีผิวสีชมพู ในธรรมชาติเราก็สามารถพบกลูตาไธโอนได้ในผลไม้ เช่น แตงโม สตรอเบอรี่ องุ่น น้ำผึ้ง อยู่แล้ว การรับประทานอาหารเหล่านี้จึงมักจะช่วยให้ผิวขาวใสขึ้นได้ แต่อย่าลืมว่า ถ้าการสร้างเม็ดสีนี้ผิดปกติเป็นบางจุดบนใบหน้า ก็ทำให้เกิดสีไม่เรียบเนียนได้เช่นกัน
  3. เอนไซม์ D.tautomerase และ D.polymerase สองตัวนี้จะช่วยในการเปลี่ยน DOPAchrome ไปเป็น DHI และ จาก DHI ไปเป็น ฟีโอเมลานิน (pheo-melanin) ตามลำดับ ทำให้มีผิวสีชมพู ซึ่งหากมีมากเกินไปก็จะทำให้เกิดเป็นกระหรือรอยสีแดงได้อีก พบว่าสารเคมีในกลุ่ม วิตามินซี, Licorice, Kogic acid สามารถยับยั้งเอนไซม์นี้ได้
  4. เอนไซม์ D.peroxidase เป็นเอนไซม์ที่เปลี่ยนสารกึ่งกลาง DHI ให้กลายเป็นเม็ดสี ยูเมลานิน (eumelanin) ซึ่งมีสีคล้ำ สารเพิ่มความขาวในกลุ่ม albutin จะออกฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ D.peroxidase นี้ทำให้ไม่เกิดเม็ดสีคล้ำมากขึ้น

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเรื่องรังสีอุลตร้าไวโอเล็ต (ultraviolet) ทั้งชนิด A และ B ที่สามารถทำให้สีผิวเปลี่ยนไปได้อีกคือ รังสี UV ชนิด A เป็นรังสีที่มีช่วงคลื่นยาว พลังงานต่ำ จะกระตุ้นให้เซลล์ผิวหนัง melanocytes สร้างเม็ดสีเมลานินได้โดยตรง, กระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ Tyrosinase ให้ทำงานได้มากขึ้น, และทำให้เซลล์ผิวหนังชั้นบนคือ keratinocyte รับสารเมลานินได้มากขึ้นส่งผลให้สีผิวเข้มขึ้น จึงทำให้เกิดผิวสีคล้ำ เกิดฝ้า หรือ กระ และรังสี UVB (รังสี UV ชนิด B มีช่วงคลื่นสั้น พลังงานสูง) จะทำให้การทำงานประสานกันของเซลล์ melanocyte และเซลล์ผิวหนัง keratinocyte ได้ดีขึ้นในการรับส่งเม็ดสีเมลานินทำให้ผิวคล้ำได้เช่นกัน

เป็นอย่างไรคะ จะเห็นได้ว่าจริงๆ แล้วการที่ผิวมีสีอย่างไรนั้น มีที่มาที่ไป และมีกลไกที่ทำให้สีผิวของเราเปลี่ยนไปได้ ดังนั้นการที่เราจะควบคุมสีผิวก็เป็นสิ่งที่พอจะทำได้

สลายฝ้า . . . หน้าตึง 
เซรั่มลดเลือนฝ้ากระ เจ เอ็ม ซี

ช่วยลดเลือนฝ้า ฝ้ากระ จางลง
ช่วยลดริ้วรอย ให้ผิวเต่งตึง กระชับ แลดูอ่อนกว่าวัย
บำรุงและฟื้นฟูได้อย่างล้ำลึก ด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ อันทรงคุณค่า สูตรลับเฉพราะ ของ เจ เอ็ม ซี ลูกค้าซื้อซ้ำ มากกว่า 98%

ใช้ได้ทุกสภาพผิวจ้าาา

เข้ามาค่ะ เปิดใจลองแล้วคุณจะรักผิวของคุณเอง🥰

——————————-
สายด่วน 083-007-8589
ยินดีให้คำปรึกษาค่ะ 🙏

นวัตกรรมเซรั่มไวท์เทนนิ่งบำรุงผิวหน้าล่าสุด ของ JMC ผสาน 2 พลังเซรั่มฝ้า เซรั่มริ้วรอยเข้มข้น ไว้ในขวดเดียว เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดทุกครั้งที่ใช้

Supreme Whitening Anti-Melasma Serum

สูตรเข้มข้น ช่วยลดเลือนปัญหาฝ้ากระหนาลึก และจุดด่างดำที่ต้นตอได้ดีกว่า 10 เท่า โดยไม่ทำให้ผิวไวต่อการเกิดจุดด่างดำ และช่วยลดการกลับมาเป็นซ้ำอีก

#Repair #Smooths #Restores #Corrects #AntiMelasma #AntiWrinkle #ลดเลือนฝ้ากระทุกชนิด #ลดเลือนริ้วรอย #ฟื้นบำรุง #ผิวเรียบเนียน

ประเภทผิว: ทั้งหมด

ผลิตภัณฑ์นี้คือ

เซรั่มที่ช่วยรับมือสัญญาณผิว ฝ้ากระ จุดด่างดำ และดูร่วงโรย ให้โอกาสผิวเป็นครั้งที่สองในการรับมือกับฝ้ากระ หน้าหมองคล้ำ เส้นริ้ว ร่องและความเสียหายจากมลภาวะและแสงแดด

ทำงานอย่างไร

สูตรเพื่อผิว ลดเลือนฝ้ากระ จุดด่างดำ ผิวไม่เรียบเนียน ให้ดูอ่อนเยาว์และช่วยให้ดูเรียบเนียนและเปล่งประกายขึ้น หน้าขาวใสและเส้นริ้วจากการแสดงความรู้สึกจึงดูจางลง

No parabens. No phthalates. No fragrance. Just happy Skin.

สำหรับใครที่สนใจ สั่งจองเทสเตอร์ได้ที่ 👇🏻

Line id : 083-007-8589

หรือทักสั่งทางเพจได้เลยนะคะ (FB: JMC Cosmetic Training Center )

เซรั่มฝ้ากระหน้าขาวใส

ขนาด 15 มล. ราคา 390 บาท + 50 บาท (ค่าส่ง) =440 บาท

สอนทำเครื่องสำอาง หลักสูตรระยะสั้น เพื่อสร้างแบรนด์ของคุณเอง

ศูนย์อบรมเครื่องสำอาง เจ เอ็ม ซี

JMC Cosmetics Training Center 

*****เนื้อหาและสิ่งที่จะได้รับ*****

  1. เอกสารประกอบการเรียน พื้นฐานผิวหนัง ความหมายของเครื่องสำอาง
  2. วิธีปฎิบัติ หน้าที่สารสำคัญต่างๆ ในการขึ้นสูตรตำรับ
  3. แนะนำบริษัทที่ขายวัตถุดิบที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ มาจำหน่ายในประเทศไทย
  4. สอนวิธีการคำนวณต้นทุนครีมเมือเทียบเป็นกิโลกรัม สามารถลดต้นทุนได้มากกว่า 10 เท่า
  5. แนะนำวิธีการเลือกสารสกัด สารออกฤทธิ์ต่างๆมาใส่ในสูตรให้เหมาะสม ออกฤทธิ์ได้ดีเห็นผล
  6. สอนการใช้อุปกรณ์ที่จำเป็นพื้นฐานในห้องแลบ
  7. สอนวิธีการตรวจสอบคุณภาพครีม การดู สี กลิ่น การซึมเข้าสู่ผิว การเกลี่ย เนื้อสัมผัส การวัดความเป็นกรดด่างของครีมและสภาวะที่เหมาะสม
  8. สอนวิธีการทดสอบคุณภาพ Stability Test เช่น Centifugation, Heating –Cooling Cycle, Viscosity Testing
  9. แนะนำโรงงานที่จัดจำหน่าย กระปุก หลอดครีม ภาชนะบรรจุต่างๆ
  10. แนะนำโรงงานทำฉลาก สติ้กเกอร์ ทำกล่อง สกรีนบรรจุภัณฑ์ต่างๆ
  11. แนะนำระบบ GMP โรงงาน
  12. แนะนำเรื่องการตลาด การสร้างแบรนด์
  13. แนะนำการจดทะเบียนโรงงาน การจดทะเบียนผู้ประกอบการ การจดแจ้ง อ.ย
  14. แนะนำช่องทางการจัดจำหน่าย ออนไลน์ ออฟไลน์
  15. สอนจนเข้าใจ สามารถกลับไปทำเองได้แน่นอนเรียนจบได้ภายใน 1 วัน
  16. ราคารวมอาหารกลางวันและอาหารว่างแล้ว
  17. มีใบประกาศนียบัตรมอบให้
  18. กรณีสามารถเรียนซ้ำได้ โดยจ่ายแค่ 50% ของราคาหลักสูตร
  19. ทางสถาบันมีอุปกรณ์ให้ท่านไม่ต้องเตรียมมา

สำหรับผู้ที่อยากรู้ลึกและครบทุกเนื้อครีม

  1. ให้สูตรที่ใช้วัตถุดิบตั้งต้นสำหรับการผลิตขายในเชิงอุตสาหกรรม
  2. ใช้ Homogenizer และเครื่องมือมาตรฐานแล๊บที่นักพัฒนาผลิตภัณฑ์ใช้งานจริง 
  3. ผู้เรียนได้ลงมือทำการผลิตเองทุกขั้นตอน 
  4. แนะนำแหล่งซื้อวัตถุดิบ และอุปกรณ์เครื่องมือ

หลักสูตรเหมาะสำหรับ ☑️เจ้าของแบรนด์ ☑️ผู้ผลิต ☑️ผู้สนใจเริ่มธุรกิจ

  1. ประสบการณ์สอนแบบไพรเวทนาน 10 ปี 
  2. หลักสูตรโดยนักวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางปริญญาโท
  3. เราเป็นมืออาชีพด้านการผลิตเครื่องสำอางทุกประเภท
  4. ห้องแล๊บใหม่ 

#ครีมเกรดพรีเมี่ยม  #ไม่มีกั๊กสูตร #สอนปรับสูตร #สอนออกแบบสูตรเอง #เครื่องมือมาตรฐานแล๊บ #อาจารย์ตอบทุกคำถาม #สอนทำครีม #สอนทำมาส์ก #สอนทำครีมกันแดด #สอนทำเครื่องสำอาง #สอนทำสบู่ #สอนทำแชมพู #สอนจดอย #สอนการตลาด #สร้างแบรนด์

#รับพัฒนาสูตรครีม #รับแกะสูตรครีมเคาน์เตอร์แบรนด์ #ขายสูตรครีมเคาน์เตอร์แบรนด์ #ขายสูตรครีมเกรดพรีเมี่ยม #ขายสูตรครีมเกาหลี #รับแกะสูตรสบู่ #ขายสูตรสบู่

#รับแกะสูตรครีม ดอนเมือง #รับแกะสูตรครีม ราคา #แกะสูตรครีมpantip #รับแกะสูตรครีม ระยอง #รับแกะสูตรเครื่องสําอาง #รับแกะสูตรยา #รับแกะสูตรสบู่

เปิดอบรม “สอนทำเครื่องสำอาง สอนทำครีม” สอนวันเดียวทำได้เลย โดยผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องสำอาง

สอนจากประสบการณ์จริง เรียนได้แม้ไม่มีพื้นฐาน

1. หลักสูตรยอดนิยม

ดังนี้

1. ครีมมาร์คหน้าขาวใสข้ามคืน (Overnight Whitening Mask Cream)  4,500 บาท

2. ครีมบำรุงผิวหน้าขาวใส ลดฝ้ากระ  (Day and Night Whitening Cream)  4,500 บาท

3. เซรั่มลดเลือนริ้วรอยสูตรเข้มข้น (Anti Wrinkle Concentrated Serum)  4,500 บาท

4. ครีมกันแดดผสมรองพื้น  SPF 50/PA+++  (Sunscreen With Foundation SPF50/PA+++)  4,500 บาท

5. เจลล้างหน้าเพื่อผิวกระจ่างใส (Whitening Cleansing Clear Gel )** 3,000 บาท

*****สามารถแยกเรียนเป็นหลักสูตรได้*****

โปรโมชั่นหลักสูตร 1-4 ราคารวม  18,000 บาท ลดเหลือ 16,000 บาท

แถมหลักสูตรที่ 5 มูลค่าอีก 3,000 บาทฟรี

สมัครเรียน 2 ท่าน ลดเพิ่มอีก 5% ทันที

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่

ศูนย์อบรมเครื่องสำอาง JMC

(JMC Cosmetic Training Center)

Managing Director

Tel: 083-007-8589, Line ID: careandliving

https://www.facebook.com/JMC-Cosmetic-Training-Center-113166417038006/

สถานที่อบรม :

ศูนย์อบรมเครื่องสำอาง

อาคารเลขที่ 88/22 หมู่บ้าน เนอวานา พาร์ค (Nirvana)

ซ. รามคำแหง 53 แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง 10310

มีฝ่าย R&D 
พัฒนาสูตร และผู้เชี่ยวชาญดูแล อย่างใกล้ชิด

JMC สอนทำเครื่องสำอาง สอนทำครีม สอนทำเวชสำอาง ผลิตภัณฑ์ความงาม สำหรับธุรกิจส่วนตัว

1 usd to

แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่อง : วิธีดูแลผิวหน้าเพื่อป้องกันการเกิดฝ้า กระ