วางแผนเที่ยวในไทยรับไอเย็น

ใกล้สิ้นปีแล้ว ได้เวลาวางแผนเที่ยวรับไอเย็นกันแล้วค่ะ บ้านเรามีโลเคชั่นให้เลือกเที่ยวมากมาย จนไม่รู้ว่าจะเริ่มจากที่ไหนดี ถึงแม้ว่าบ้านเราจะไม่ได้มีหิมะตกสำหรับเล่นสกี ทิวเขาสูงชันขาวโพลนสำหรับปีนพิชิต หรือแม่น้ำที่เย็นเป็นน้ำแข็งให้เล่นสเก็ต อากาศปลายฝนต้นหนาว และมีข่าวแว่วมาว่าปีนี้อากาศหนาวจะมาไวและอยู่นานกว่าที่เคย จังหวะสิ้นปีพร้อมวันหยุดยาวแบบนี้ พลาดไม่ได้ ถึงเวลาเตรียมตัวออกเที่ยวรับไอเย็นและวิวสวย ๆ กันแล้ว

ก่อนเดินทาง เรามาดูกันว่า อะไรที่ควรจะต้องทำก่อนที่จะเสียโอกาสเที่ยวที่สวย ๆ รับไอเย็นกัน

1. ดูกระเป๋าตังค์ & เงินเก็บสำหรับเที่ยว

บัดเจ็ทเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกสำหรับการเริ่มต้นทริปรับลมเย็นสิ้นปี ลองตรวจสอบเงินที่มี และเงินเก็บ แล้วประเมินดูว่า จะใช้งบเท่าไหร่ ทั้งค่าเดินทาง ค่ากิน ค่าเที่ยว และซื้อของฝาก ทางที่ดี ก็ไม่ควรให้กระทบเงินออม

2. คิดไว้เลยอยากไปไหน

เมื่อมีงบในใจแล้ว สิ่งต่อไปที่ต้องตั้งคำถามก็คือ งบเท่านี้ไปไหนได้บ้าง แล้วอยากไปไหน ไปกับใคร แล้วเลือกช่วงวันและระยะเวลา เพื่อจะได้วางแผนสัมผัสไอเย็นได้แบบฟิน ๆ

3. มองหาโปรฯ แล้วจองเลย

เมื่อได้ข้อสรุปแล้วก็รีบจองมองหาโปรฯ หรือบุ๊คกิ้งที่พักและตั๋วเดินทางได้เลย ช้าเดี๋ยวจะหมดทั้งราคาโปรฯ และคนเต็ม มีหลายคนที่ลังเลตัดสินใจไม่ได้ว่าจะไปไหน กว่าจะจองก็เต็มเสียก่อน

ถ้ายังตัดสินใจไม่ได้ว่าอยากไปไหนดี ก็ลองมาเลือกจากลิสต์ “สายใกล้กรุงฯ กับสายเที่ยวเขา” กัน

สายใกล้กรุงฯ อยู่ใกล้ เดินทางง่าย และมีให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น…

• เขาใหญ่-วังน้ำเขียว ที่เที่ยวสุดฮิตสำหรับครอบครัวที่ชอบพากันขับรถเดินทางไปแถบเขาใหญ่ พักที่รีสอร์ทบรรยากาศดี ๆ ที่วังน้ำเขียว พร้อมกิจกรรมรับลมหนาว อากาศบริสุทธิ์ และวิวที่งดงามเหมือนกับได้ไปชมเขาในภาคเหนือกันเลยทีเดียว
• สวนผึ้ง จ.ราชบุรี สถานที่ฮิตติดอันดับ Top 10 ที่สวนผึ้ง กับอากาศที่บริสุทธิ์ติดอันดับโลก มีสถานที่ท่องเที่ยวสุดชิลมากมาย เหมาะกับคนรักการถ่ายภาพ และชอบฝูงแกะ ยิ่งอากาศในช่วงฤดูหนาว ยิ่งทำให้การท่องเที่ยวสูดอากาศบริสุทธิ์ที่สวนผึ้ง เป็นไอเดียที่ดีทีเดียวสำหรับการขับรถไปเที่ยวที่ใช้เวลาไม่ถึง 3 ชั่วโมง
• สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี แม้ว่าที่สังขละบุรีจะมีอากาศใกล้เคียงภาคใต้ คือ ในหน้าหนาวฝนตกบ่อย แต่ก็มีหมอกจัดในตอนเช้า ประกอบกับอยู่กลางหุบเขา จึงทำให้มีอากาศเย็นสบาย ที่นี่เหมาะกับนักท่องเที่ยวสายแบกเป้ หรือสายที่ชอบวัฒนธรรม เพราะมีพื้นที่ติดกับประเทศเมียนมาร์ จึงมีชุมชนชาวมอญที่มีวิถีชีวิตที่น่าสนใจ
• เขาสก จ.สุราษฎร์ธานี ที่ใคร ๆ ก็ให้ชื่อเล่นว่า กุ้ยหลินเมืองไทย หรือเขื่อนรัชชประภาที่เปี่ยมความสมบูรณ์ของธรรมชาติแล้ว ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์โบราณคดีอีกด้วย

สายเที่ยวเขา บรรยากาศสวยงาม อากาศบริสุทธิ์

• ปาย-ปางอุ๋ง จ.แม่ฮ่องสอน ฉายาเมืองสามหมอก เมืองที่เงียบสงบ ให้คุณได้ผ่อนคลายกลางขุนเขา สายหมอก และธรรมชาติ ทั้งผู้คนที่นี่ก็ยิ้มแย้มพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวเสมอ นอกจากหุบเขาและสายหมอกแล้ว ปายยังมีที่เที่ยวอื่น ๆ เช่น น้ำตก วัด โป่งน้ำร้อน และอุทยานห้วยน้ำดัง
• ดอยแม่สลอง จ.เชียงราย เมื่ออากาศหนาวมาเยือน เหล่านักท่องเที่ยวทั้งขาประจำและขาจรก็จะพากันมาชมดอกนางพญาเสือโคร่งที่มีสีชมพูสวยราวกับซากุระ และที่นี่ยังเป็นจุดชมปุยหมอกระยอดเขาชั้นดีที่สุดที่หนึ่งของเมืองไทย สาย ๆ ก็ลงจากดอยไปเที่ยวไร่ชาอู่หลง หมู่บ้านสันติคีรี และสักการะพระบรมธาตุเจดีย์ ก็เป็นความคิดที่เข้าท่า
• ดอยอ่างขาง จ.เชียงใหม่ ที่นี่เพียบพร้อมไปด้วยดอกไม้สวยนานาชนิด ให้คุณได้ชื่นชมทิวดอกไม้ต้นไม้สีสันสวยงาม และได้ลิ้มรสสตรอว์เบอร์รี่ผลใหญ่ ๆ สด ๆ หรือจะแวะไปเที่ยวหมู่บ้านชาวเขาและศึกษาเส้นทางธรรมชาติ ชมนกหายากก็ได้
• ภูกระดึง จ.เลย ที่ฮิตอีกแห่งที่นักท่องเที่ยวสายลุยน้อยคนนักจะยังไม่เคยไปเยือน เหมาะสำหรับสายบู๊ที่จะสนุกกับการตะลุยป่า เดินเขา เพื่อขึ้นไปด้านบนชมธรรมชาติ ชมทะเลหมอก ตั้งแคมป์นอนดูดาว โรแมนติกสุด ๆ

ต้องยอมรับว่า สถานที่ท่องเที่ยวบ้านเราสวยไม่แพ้ใคร เที่ยวได้ทั้งปี ทุกภาค จะธรรมชาติ วัฒนธรรม เมือง หรืออาหารการกินก็อร่อยถูกใจในราคาไม่แพง หน้าหนาวที่กำลังจะถึงนี้ ลองเอาไอเดียข้างบนไปคิด ไปชวนเพื่อน ชวนครอบครัวไปเที่ยวกันนะคะ ใครเวลาไม่พอเที่ยวที่ด้านบน ลองเที่ยวในกรุงก่อนได้นะ อย่างไรก็ตาม อย่าลืมทำประกันก่อนเที่ยวนะคะ จะได้เที่ยวกันได้สบาย ๆ แบบหายห่วงค่ะ

Cr. krungsri Bank