เคยสงสัยกันไหมว่าสิวที่ขึ้นบนใบหน้าคือสิวประเภทใด และการรักษาที่ถูกต้องของสิวแต่ละประเภทต้องทำอย่างไร วันนี้เราจึงชวนสาวๆ มาทำความรู้จักกับสิว 6 ประเภท พร้อมทั้งวิธีการรักษาที่ช่วยให้ผิวหน้ากลับมาเรียบเนียนได้เหมือนเดิม ตามมาดูกันค่ะว่ามีสิวประเภทใดบ้าง

1.Nodular Acne – สิวอักเสบ

สิวอักเสบคือสิวที่เกิดจากการที่แบคทีเรียเข้าไปอยู่ในรูขุมขนที่มีเซลล์ผิวตายแล้ว บวกกับความมันบนผิวหน้า ลักษณะของสิวอักเสบจะเป็นตุ่มแข็งสีแดงและไม่มีหัว

วิธีรักษาสิวอักเสบ

การรักษาสิวอักเสบไม่สามารถทำได้ด้วยการกดออกเอง แต่บรรเทาอาการอักเสบได้ด้วยการทายาไฮโดรคอร์ติโซน แต่หากอาการไม่ดีขึ้น ควรพบแพทย์ผิวหนังเพื่อรับคำปรึกษาและการรักษาต่อไป

2.Whiteheads – สิวหัวขาว

สิวหัวขาวจัดเป็นสิวอุดตันหัวปิด สามารถพัฒนาไปเป็นสิวหนองขนาดใหญ่ได้ มีลักษณะเป็นตุ่มสีขาวอยู่ใต้ผิวหนัง เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน และการใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่มีไขมันเป็นส่วนประกอบ

วิธีรักษาสิวหัวขาว

สิวหัวขาวสามารถรักษาด้วยการทายาที่มีส่วนผสมของ Benzoyl peroxide เพราะช่วยลดการอุดตันพร้อมทั้งเปิดรูขุมขนทำให้สิวอุดตันหลุดออกได้ง่าย

3.Blackheads – สิวหัวดำ

สิวหัวดำมักพบบริเวณทีโซน ซึ่งสีดำของหัวสิวนั้นไม่ได้เกิดจากสิ่งสกปรก เพียงแต่เกิดจากรูขุมขนอุดตันไปด้วยเซลล์ผิวที่ตายแล้ว รวมทั้งน้ำมันบนผิวหน้าทำปฏิกิริยากับออกซิเจนทำให้หัวสิวเป็นสีดำ

วิธีรักษาสิวหัวดำ

การรักษาสิวหัวดำใช้วิธีเดียวกันกับการรักษาสิวหัวขาว นั่นก็คือการทายาที่มีส่วนผสมของ Benzoyl peroxide นั่นเอง

4.Pustule – สิวหัวหนอง

สิวหัวหนองเกิดจากการที่รูขุมขนเกิดการอุดตันมาก จนทำให้ผิวเริ่มบวมจนเป็นตุ่มหนอง รวมทั้งเกิดจากการติดเชื้อของรูขุมขน ทำให้ตุ่มสิวเป็นตุ่มหนองบวมแดงและไวต่อการสัมผัส

วิธีรักษาสิวหัวหนอง

การรักษาสิวหัวหนองแนะนำให้ใช้แผ่นดูดสิวในการดูดซับหนองจากหัวสิว และห้ามใช้มือบีบหรือกดออกเองเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เชื้อแบคทีเรียแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นๆ ของผิวหน้านั่นเอง หากอาการไม่ดีขึ้น ควรพบแพทย์ผิวหนังให้รักษาต่อไป

5.Cystic Acne – สิวหัวช้าง

สิวหัวช้างเริ่มจากเป็นตุ่มแดงเล็กๆ แล้วขยายใหญ่ขึ้นเป็นก้อนแข็ง มีความคล้ายซีสต์ขนาดเล็กที่เต็มไปด้วยหนอง เกิดจากการอักเสบในรูขุมขนที่มีความรุนแรง จึงมักทำให้รู้สึกเจ็บเมื่อสัมผัส

วิธีรักษาสิวหัวช้าง

ในส่วนของการรักษาสิวหัวช้างมีเพียงตัวเลือกเดียวก็คือ รับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และไม่ควรรักษาเองเพราะอาจทำให้เกิดการอักเสบที่รุนแรงยิ่งขึ้น

6.Papule – สิวที่มีตุ่มนูนแดง

สิวประเภทนี้จะมีตุ่มแดงขนาดเล็กและไม่มีหัวสิว สามารถพัฒนาไปเป็นสิวอักเสบได้ เกิดจากการที่แบคทีเรียอุดตันในรูขุมขน

วิธีรักษาสิวที่มีตุ่มนูนแดง

วิธีรักษาสิวประเภทนี้แนะนำให้ทายาที่มีส่วนผสมของ Benzoyl peroxide ลงบนตุ่มสิว เพราะยาชนิดนี้มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียได้ดี

เมื่อสาวๆ รู้ถึงสาเหตุของการเกิดสิวแต่ละประเภท พร้อมทั้งการรักษาที่ถูกต้องกันไปแล้ว สิ่งที่ควรให้ความสำคัญอย่างมากก็คือ การรักษาความสะอาดของผิวหน้า และหลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสผิวหน้า โดยเฉพาะการบีบสิวถือเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำเด็ดขาดเลยทีเดียว