เมื่อใครสักคนเริ่มมีรู้สึกตัวว่าตัวเองกำลังมีความรัก ค่อย ๆ เริ่มความสัมพันธ์ไปทีละสเต็ปตามจังหวะรัก จนในเวลานี้อาจจะกำลังอยู่ที่ขั้นใดขั้นหนึ่ง ความกดดันเริ่มเพิ่มขึ้นพร้อมกับความคาดหวังต่าง ๆ รวมถึงยังกังวลในเรื่องของการคิดหาวิธีกระชับความสัมพันธ์และรักษาความสัมพันธ์ให้ยาวนาน หรือง่าย ๆ ก็คือ ยังกังวลว่าจะแสดงความรักต่ออีกฝ่ายอย่างไรดีให้เข้ากับความรักของคนทั้งคู่
จริง ๆ แล้วการแสดงความรักต่อกันนั้นไม่ใช่เรื่องที่ต้องมานั่งเสียเวลาคิดมาก เพราะกุญแจสำคัญมีเพียงแค่ “สื่อสารให้อีกฝ่ายรับรู้ถึงความรักที่คุณมีต่อเขาหรือเธอ” แค่นั้นเอง ในทางตรงกันข้าม หากความรักไม่ราบรื่น ก็สามารถใช้วิธีเดียวกันนี้ช่วยประสานให้ความสัมพันธ์กลับมาเข้ารูปเข้ารอยดังเดิม ยิ่งคุณสื่อสารความรักกับอีกฝ่ายได้เร็วเท่าไร คุณก็จะสานสัมพันธ์กับพวกเขาได้ง่ายขึ้นเท่านั้น ซึ่งมันก็มีอยู่สารพัดวิธีที่จะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกถึงความเป็นที่รัก แต่เมื่อจัดกลุ่มแล้ว ได้เป็น 5 วิธีดังนี้
ยืนยันด้วยคำการบอก “รัก”
แม้ว่าใครต่อใครจะบอกว่าการกระทำสำคัญกว่าคำพูด แต่ใครอีกหลาย ๆ คนก็ยังยืนยันว่าไม่ว่าการกระทำจะสำคัญแค่ไหน ฉันก็ยังอยากได้ยินคำว่า “รัก” จากปากของคนรักกับหูตัวเองอยู่ดี อยากรู้ว่าเขาหรือเธอคิดยังไงกับฉัน อยากรู้ว่าเขาหรือเธอชอบอะไรในตัวฉัน อยากให้เขาหรือเธอกล่าวชมเชยเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างจริงใจเมื่อมีโอกาส พอได้กระชุ่มกระชวยหัวใจ นี่เป็นวิธีเบสิกที่สุดแล้วในการแสดงออกว่ารัก แต่วิธีนี้ไม่จำเป็นต้องเป็นคำพูดเสมอไป อาจจะเป็นการส่งข้อความ ส่งการ์ด รูปภาพที่มีความหมาย หรือจะโพสต์ลงโซเชียลมีเดียก็แล้วแต่รสนิยม
รักไม่รักดูได้จากการกระทำ
เพราะการบอกว่า “รัก” ใคร ๆ ก็พูดได้ หลายคนเชื่อว่าเราสามารถพูดคำว่ารักออกมาจากปากได้โดยที่ไม่ต้องผ่านหัวใจ ทำให้คนกลุ่มนี้เชื่อในการกระทำที่แสดงออกให้เห็นชัด ๆ ไปเลยว่ารัก มากกว่ารักที่มาจากลมปาก จะชอบแบบไหรก็ไม่ว่ากัน แค่บอกกันดี ๆ หลายคนที่ว่าจึงยึดที่ “การกระทำ” เป็นหลัก การกระทำที่ทำให้เขาหรือเธอรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่พิเศษ แค่นี้ก็มีความหมายมากแล้ว ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม แค่คนทำทำด้วยความจริงใจ เอาใจใส่ แคร์ความรู้สึก คนรับก็รู้สึกได้ถึงความพิเศษที่ถูกส่งมาแล้ว
การสัมผัสทางกาย
การสัมผัสทางกายถือเป็นเรื่องธรรมดาในการใช้แสดงความรักของคนรักกัน โดยอาจใช้บ่งชี้ได้ว่าคู่นี้สนิทสนมกันมากขนาดไหน การสัมผัสก็มีหลายระดับ โดยอาจเป็นการกระทำง่าย ๆ อย่างการจับมือ โอบไหล่ โอบเอว การกอด ขึ้นมาอีกขั้นก็คือการจูบ ซึ่งสถานการณ์อาจจะนำพาไปได้ไกลกว่านั้นก็เป็นได้ จริง ๆ แล้วมันเป็นเรื่องปกติมากที่คนรักกันจะมีความต้องการสัมผัสกับตัวของคนรัก คู่ที่มีการสัมผัสทางร่างกายสูง ก็มีความเป็นไปได้ว่าจะต้องการความใกล้ชิดทางเพศด้วยเช่นกัน หากอยู่ในขอบเขตของความเหมาะสมและควบคุมได้ก็ไม่มีอะไรต้องกังวล
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่อง : “รักนะ” อย่างมีศิลปะ กระชับความสัมพันธ์คู่รักให้แน่นแฟ้น
เรื่องนี้ไม่อนุญาติ ให้แสดงความคิดเห็น