ในช่วงที่เศรษฐกิจฝืดเคืองทั่วโลกเช่นนี้ เจ้าของรถหลายคนอาจจำเป็นต้องนำรถเข้ารับการรีไฟแนนซ์เพื่อให้ได้มาซึ่งเงินก้อน หรือเพื่อลดภาระค่างวดในแต่ละเดือนให้ต่ำลง แต่รู้หรือไม่ว่าหากรถของคุณเป็นรถแต่ง อาจมีผลต่อการพิจารณาอนุมัติรีไฟแนนซ์ด้วยนะ

ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่าการแต่งรถ เป็นการปรับสภาพรถให้แตกต่างจากไปสภาพเดิมที่ออกมาจากโรงงาน นับตั้งแต่การเปลี่ยนล้อ การติดตั้งสเกิร์ตรอบคัน การโหลดเตี้ย การเปลี่ยนเครื่องเสียงเป็นยี่ห้ออื่นแทนของเดิมที่ติดมากับรถ การเปลี่ยนชนิดของหลอดไฟหน้า การเปลี่ยนสีรถส่วนใดส่วนหรือหรือทั้งคัน ฯลฯ ล้วนแต่เป็นการแต่งรถทั้งนั้น หากมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งถูกปรับเสริมเติมแต่งขึ้นมา ก็นับว่าเป็นการแต่งรถแล้ว

ทีนี้หากเป็นการแต่งรถเล็กๆ น้อยๆ ที่มักทำกันทั่วไป เช่น การเปลี่ยนล้อให้มีลวดลายสวยงาม, ติดตั้งชุดสเกิร์ต หรือการเปลี่ยนเครื่องเสียง การขอรีไฟแนนซ์ก็มีโอกาสผ่านสูง เพราะถือว่ารถยังมีเค้าโครงสภาพเดิมอยู่ แต่หากเป็นการแต่งรถชนิดฟูลออปชันจัดเต็มทุกกระเบียดนิ้วแล้วล่ะก็ อันนี้ก็อาจทำให้โอกาสได้รับอนุมัติยากขึ้น ยิ่งถ้าเป็นกรณีการแต่งรถที่ขัดต่อกฎหมาย เช่น เปลี่ยนสีตัวถังแต่ไม่มีการจดแจ้ง อาจรีไฟแนนซ์ไม่ผ่านเลยก็เป็นได้

     นอกจากรถแต่งแล้ว ยังมีรถประเภทอื่นๆ ที่ต้องตรวจสอบให้ดีก่อนรีไฟแนนซ์ ได้แก่

รถติด LPG/NGV – กรณีเป็นรถที่ติดตั้งระบบก๊าซธรรมชาติมาจากโรงงานอันนี้ไม่มีปัญหา สามารถรีไฟแนนซ์ได้อย่างแน่นอน แต่หากเป็นการติดตั้งจากอู่ภายนอกจะต้องมีการลงรายละเอียดในเล่มคู่มือจดทะเบียนด้วย ซึ่งขั้นตอนนี้ถือเป็นมาตรฐานในการติดตั้งแก๊สที่จำเป็นอยู่แล้ว

รถแท็กซี่ – กรณีเป็นรถแท็กซี่ส่วนบุคคลสามารถรีไฟแนนซ์ได้ แต่หากเป็นแท็กซี่ของอู่ก็จะไม่สามารถรีไฟแนนซ์ได้ อย่างไรก็ดี หากเป็นรถแท็กซี่ที่ผ่านการแต่งเต็มทั้งคัน ก็จะทำให้โอกาสได้รับอนุมัติน้อยลงเหมือนกับรถส่วนบุคคล

รถบรรทุก – กรณีเป็นรถบรรทุกที่ผ่านการใช้งานมายาวนานจนมีสภาพทรุดโทรม ก็อาจไม่ได้รับการอนุมัติรีไฟแนนซ์ แต่หากเป็นรถใหม่ที่ยังมีสภาพดีอยู่ ก็จะขึ้นอยู่กับเกณฑ์การพิจารณาของสถาบันการเงินแต่ละแห่งว่าจะรับรถบรรทุกด้วยหรือไม่

ดังนั้น หากในอนาคตเกรงว่าจะต้องมีการรีไฟแนนซ์เกิดขึ้น ก็ควรรักษารถสภาพเดิมๆ ไว้ให้ได้มากที่สุด หรือแต่งรถแต่พองามเท่านั้น จะช่วยให้มีโอกาสได้รับการอนุมัติมากขึ้นครับ