ปิดเมนู
หน้าแรก

รวมวิธีรักษาและป้องกันฝ้าให้ได้ผล หน้าใสไร้ฝ้ามากวนใจ

เปิดอ่าน 681 views

รวมวิธีรักษาและป้องกันฝ้าให้ได้ผล หน้าใสไร้ฝ้ามากวนใจ

ฝ้าเป็นปัญหาผิวพรรณที่พบเจอได้บ่อย ทำให้หลายคนหมดความมั่นใจเมื่อเกิดฝ้าขึ้น โดยเฉพาะสาว ๆ ทั้งหลาย การป้องกันและทำความเข้าใจในการรักษาฝ้าอย่างถูกวิธีจะช่วยให้ผิวกลับมาสู่สภาพปกติได้ใกล้เคียงมากที่สุด

ฝ้าเกิดได้อย่างไร ?

ฝ้าเกิดการจากผลิตเม็ดสีหรือที่รู้จักกันในชื่อของเมลานินที่มากเกินไปในบางบริเวณของผิวหนัง ทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นเกิดเป็นรอยสีน้ำตาลเข้มไปจนถึงเทา โดยมักจะเกิดขึ้นบริเวณที่โดนแดด ได้แก่ โหนกแก้ม เหนือริมฝีปาก หน้าผาก หรือคาง ซึ่งจะเกิดกับผู้หญิงในช่วงวัยกลางคนอายุ 20-50 ปี และพบได้บ่อยกว่าในผู้ชาย

สาเหตุการเกิดฝ้ายังไม่สามารถระบุได้ชัด แต่มีหลายปัจจัยเกี่ยวข้อง เช่น สีผิวของแต่ละคน ในคนที่ผิวคล้ำหรือมีผิวสีเข้มจะเกิดได้ง่ายกว่าคนผิวขาว โรคไทรอยด์ ฮอร์โมนเอสโตรเจนและโพรเจสเทอโรนในร่างกายและการใช้ฮอร์โมนรูปแบบต่าง ๆ อย่างการรับประทานยาคุมกำเนิด การตั้งครรภ์ การรักษาด้วยฮอร์โมน ล้วนกระตุ้นให้เกิดฝ้าขึ้นได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังรวมไปถึงแสงแดดในชีวิตประจำวันที่เชื่อว่าเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดฝ้าได้ง่าย เนื่องจากรังสีอัลตราไวโอเลตในแสงแดดจะส่งผลกับเซลล์ผิวหนังที่เรียกว่าเมลาโนไซต์ ซึ่งควบคุมการสร้างเม็ดสีในผิวหนังขึ้น  

การรักษาฝ้า

ฝ้ายังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ในบางกรณี เช่น สตรีมีครรภ์ ผู้ที่มีการรับประทานยาคุมกำเนิดหรือได้รับการรักษาด้วยการใช้ฮอร์โมน ฝ้าอาจจางหายได้เองเมื่อคลอดบุตรหรือหยุดการได้รับฮอร์โมนนั้น ๆ ซึ่งการรักษาฝ้าให้ได้ประสิทธิภาพดีอาจต้องมีการใช้วิธีการรักษาหลายวิธีไปพร้อมกัน โดยขึ้นอยู่กับชนิดของฝ้าและความรุนแรงที่เป็นด้วย

1. การรักษาด้วยยา 

เป็นวิธีการรักษาด้วยการใช้ยาในรูปแบบครีมที่มีส่วนผสมหลักเป็นสารฟอกสีตัวเดียวหรือหลายตัวเป็นส่วนประกอบ เพื่อช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเพิ่มมากขึ้น เช่น ยาทากลุ่มกรดวิตามินเอหรือเรตินอยด์ (Topical Retinoids/Retinoic Acid) ไฮโดรควิโนน (Hydroxyquinone) กรดอะซีลาอิก (Azelaic Acid) กรดโคจิก (Kojic Acid) คอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroids) กรดไกลโคลิก (Glycolic Acid) ซึ่งความเข้มข้นของสารในครีมทาฝ้าจะมีปริมาณแตกต่างกันออกไป ควบคู่ไปกับการเลี่ยงแสงแดดหรือหยุดการรับฮอร์โมนเอสโตรเจนที่อาจกระตุ้นการเกิดฝ้าได้มากขึ้น ข้อควรระวัง ในการใช้ครีมที่มีส่วนผสมของสารฟอกขาวที่มีความเข้มข้นมากหรือใช้เป็นระยะเวลานานโดยไม่ปรึกษาแพทย์ อาจทำให้ผิวหนังเกิดการระคายเคือง สีผิวบริเวณนั้นเข้มขึ้น หรือเกิดฝ้าถาวรได้ (Exogenous Ochronosis)

2. การรักษาด้วยเลเซอร์และการผลัดเซลล์ผิวหนัง 

เป็นวิธีการรักษาที่ค่อนข้างรวดเร็วกว่าการทาครีมรักษาฝ้า ส่วนใหญ่จะใช้รักษาฝ้าเมื่อการใช้ยาทาไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร แต่ประสิทธิภาพของการรักษายังขึ้นอยู่กับแต่ละคน

  • การรักษาฝ้าโดยเลเซอร์ที่ช่วยปรับสภาพผิวบางส่วน (Fractional Resurfacing) เพื่อช่วยปรับสภาพหรือรักษาความผิดปกติของสีผิว เช่น เลเซอร์ระบบคิวสวิทซ์ (Q-switched Laser) หรือ (Fractional Erbium: YAG Laser) ยิงลงไปบริเวณที่เกิดฝ้าโดยตรงและทำลายเซลล์สร้างเม็ดสีด้วยความร้อน ถึงแม้ว่าจะเป็นวิธีที่ให้ผลรวดเร็วและจัดการกับสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอได้ เลเซอร์ก็ยังไม่ใช่ทางเลือกแรกของการรักษาฝ้าในทางการแพทย์ เพราะผลของการรักษาจะทำให้ฝ้าจางลงเพียงชั่วคราวเท่านั้นหรืออาจไม่ได้ผลในบางราย  
  • การผลัดเซลล์ผิวหนัง (Superficial Skin Peels) เป็นการใช้สารที่มีความเป็นกรดหรือสารฟอกขาว เช่น กรดไกลโคลิก (Glycolic Acid) หรือกรดซาลิซิลิก (Salicylic Acid) ช่วยเร่งให้ผิวเกิดการผลัดเซลล์ผิวหนังชั้นนอก คล้าย ๆ กับการใช้เลเซอร์ เพื่อช่วยให้สีผิวมีความสม่ำเสมอมากขึ้น แต่ผลข้างเคียงของวิธีนี้คืออาจเสี่ยงกับการทำให้สีผิวเข้มมากขึ้น นอกจากนี้ อาจใช้วิธีการกรอผิวด้วยผลึกแร่ เพื่อขัดและลอกผิวหนังชั้นกำพร้าด้านบนออก (Microdermabrasion)

วิธีป้องกันการเกิดฝ้าในชีวิตประจำวัน

การเลี่ยงการเผชิญกับแสงแดดโดยตรงเป็นหนึ่งในการป้องกันฝ้าที่สามารถทำได้ในชีวิตประจำวันมากที่สุด เนื่องจากรังสีอัลตราไวโอเลตทั้ง ยูวีเอ (UVA) ยูวีบี (UVB) หรือแสงที่ตามองเห็นได้ (Visible Light) อาจกระตุ้นให้เกิดกระบวนการสร้างเม็ดสีเพิ่มมากขึ้นจนทำให้เกิดฝ้าได้

ควรทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านหรือก่อนไปยังสถานที่ที่ต้องเผชิญกับแสงแดดโดยตรง เพื่อป้องกันผิวหนังถูกทำร้ายจนคล้ำเสีย โดยเลือกครีมกันแดดที่มีค่าเอสพีเอฟอย่างน้อย 30 ซึ่งตัวเลขค่าเอสพีเอฟนี้เองจะเป็นค่าที่บ่งบอกว่าครีมมีประสิทธิภาพในการปกป้องผิวจากแสงแดดได้ดีมากน้อยแค่ไหน รวมไปถึงมีสารป้องกันแดดแบบกายภาพเป็นส่วนประกอบ เช่น ไทเทเนียมไดออกไซด์ (Titanium Dioxide) หรือ ซิงค์ ออกไซด์ (Zinc Oxide) ซึ่งช่วยสะท้อนรังสีอัลตราไวโอเลตที่มากระทบจากผิวหนังได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การเลือกใช้เครื่องสำอางหรือครีมบำรุงผิวสำหรับกลางวันก็ควรเลือกชนิดที่มีสารกันแดดเหล่านี้เป็นส่วนประกอบเช่นกัน เพื่อเป็นการป้องกันผิวจากแสงแดดไปในตัว

การทาครีมกันแดดหรือเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผสมสารกันแดดอาจไม่เพียงพอต่อการป้องกันแสงแดดที่มีความรุนแรง ในช่วงที่มีแดดแรงควรมีการปกป้องผิวอีกชั้นเมื่อต้องเจอกับแสงแดดแรงโดยตรงบริเวณใบหน้า เช่น การกางร่ม สวมหมวก หรือสวมเสื้อผ้าที่ปกปิดผิวหนังได้อย่างมิดชิด

cr. pobpad.com

สุดยอด!! ครีมรักษาฝ้ากระลึก และจุดด่างดำ ADVANCED WHITENING TARGET CREAM

สูตรใหม่ดีกว่าเดิมถึง 3 เท่า ใช้แล้วเห็นผลจริง ทดสอบจากผู้ใช้จริงแล้วว่าฝ้ากระและจุดด่างดำ จ่างหาย

advanced whitening target serum ครีมรักษาฝ้ากระ และจุดด่างดำ

 

ทำไมครีมรักษาฝ้ากระและจุดด่างดำถึงเห็นผลชัดเจน?

“ด้วยเทคโนโลยี NANO LIPOSOME TECHNOLOGY ช่วยเก็บกักสารสำคัญ ACTIVE INGREDIENT, DA100 ไว้ภายใน สามารถซึมซาบเข้าสู้ผิวได้อย่างรวดเร็วทำให้ผิวขาวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ถูกรังสรรค์จากทีมผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังโดยเฉพาะ คัดเลือกสารสกัดที่ดีที่สุดมาผสมผสานกับนวัตกรรมนำพาสารออกฤทธิ์ที่ลำ่สมัย เรียกว่า Advanced Delivery System  เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ดูแลปัญหาฝ้ากระและจุดด่างดำ และครอบคุมปัณหาพื้นฐานของผิว ที่ต้องการฟื้นฟูและการบำรุงให้ลึกถึงชั้นผิวที่เป็นต้นเหตุ รวมถึงการปกป้องผิวโดยผ่านการทดสอบจากห้องแลบมาตรฐานสากลและผู้ทดสอบใช้จริง จึงมั่นใจได้ว่า ผลิตภัณฑ์มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภคและเห็นผลลัพธ์ชัดเจน

ครีมรักษาฝ้า กระลึกและจุดด่างดำ สูตรใหม่เข้มข้นกว่าเดิม เป็นครีมบำรุงผิวสูตรเข้มข้นพิเศษ ช่วยปรับสภาพสีผิวให้สม่ำเสมอทั่วใบหน้า ด้วยประสิทธิภาพของ Deoxyarbutin และสารสกัดมากกว่า 15 ชนิด ห่อหุ้มด้วย Lecithin อยู่ในรูปแบบ Liposome ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างล้ำลึก ช่วยลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน อันเป็นสาเหตุของการเกิดฝ้า กระและจุดด่างดำบนใบหน้า ผสานคุณค่าของ Licorice และ สารสกัดจากเมล็ดองุ่น ช่วยเพิ่มความเปล่งปลั่งสดใส ให้คุณเผยผิวกระจ่างใส เปลี่ยนผิวเป็นคนใหม่ จนคุณสังเกตุได้ เป็นครีมแก้ฝ้า กระลึก ที่ขายดีที่สุดของดีดีฟค่ะ

review-advanced-whitening-target-cream-%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%a7%e0%b8%84%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%a1%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%81%e0%b8%a9%e0%b8%b2%e0%b8%9d%e0%b9%89%e0%b8%b2

สารออกฤทธิ์สำคัญ (Active Ingredients) ที่เหนือกว่าสูตรเดิม

  1. Tranexamic Acid : ทำให้ผิวขาว ลดการก่อตัวของเม็ดสี melanin เหมาะสำหรับการใช้แก้ปัญหาฝ้า
  2. N-acetyl-D Glucosamine : สำหรับใช้ร่วมกับ Vitamin B3 ทำหน้าที่เป็น Whitening และสามารถลบรอยจุดด่างดำ รวมถึงกระตุ้นให้ผิวสร้าง Hyaluronic Acid ได้ตามธรรมชาติ ทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น และช่วยลดริ้วรอยได้ ให้ความชุ่มชื้นอย่างอ่อนโยนจากภายใต้ชั้นผิว
  3. Chamomil floral water : ทำหน้าที่ในการ Soothing, Relaxing and Calming ต่อผิว มีความอ่อนโยนและปลอดภัย สามารถให้ได้แม้กับผิวเด็ก
  4. Betaine : ช่วยกักเก็บน้ำในผิวได้นาน ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว
  5. Niacinamide : ช่วยยับยั้งการเคลื่อตัวของเมลานินที่จะเคลื่อนตัวขึ้นมายังผิวชั้นบน มีส่วนช่วยทำให้ผิวเรียบเนียนแลดูขาวขึ้นได้
  6. Alpha Bisabolol : มีประสิทธิภาพในการลดการระคายเคือง การอักเสบ การแพ้
  7. Squalane หนึ่งในองค์ประกอบหลักของน้ำมันหล่อเลี้ยงผิวต้วยธรรมชาติที่สำคัญ เพื่อช่วยในการคงความชุ่มชื่นและลดการสูญเสียน้ำบนผิว
  8. Biosaccharide Gum-1 เป็นสายโพลิเมอร์ ของ น้ำตาล Fructose-Galactose-Galacturonic Acid ได้มาจากการบวนการหมักที่มีการคุมคุมพิเศษ โดยใช้สารตั้งต้นจาก แป้งข้าวโพด (MAIZE) ทำให้ได้โครงสร้างของสายโพลิเมอร์ที่มีคุณสมบัติพิเศษมากมายหลายประการ ดังนี้  Soothing, Moisturising, Anti-aging, Restructuring
  9. Whitening Complex : ออกแบบมาเพื่อยับยั้งทุกขั้นตอนในการสร้างเม็ดสีเมลานิน ให้ประสิทธิภาพที่เหนือกว่าสารออกฤทธิ์ตัวเดี่ยวๆ ประกอบไปด้วย

               สารไวท์เทนนิ่ง  7 ชนิดในหนึ่งเดียว คือ      

  1. α-Arbutin Arbutin เป็น whitening agent ที่มีประสิทธิภาพสูงมีเทียบกับสารตัวอื่นๆ มีคุณสมบัติเป็นยับยั้งการทำงานของเอ็นไซม์ไทโรสิเนส ซึ่งเป็นเอ็นไซม์ที่สำคัญที่สุดในการสังเคราะห์เมลานิน
  2. Ougon คือสารสกัดจากราก  Scutellaria ซึ่งเป็นสุดยอดสมุนไพรจีนตั้งแต่สมัยโบราณ เติบโตในได้ในเขตไซบีเรียซึ่งมีสภาพอากาศที่รุนแรง ลักษณะ ดอกจะมีสีม่วงซึ่งจะพลิบานในช่วงหน้าร้อน ปกป้องผิวจากรังสียูวีและมลภาวะ ซึ่งเป็นสองสาเหตุหลักที่กระตุ้นให้ผิวหมองคล้ำ
  3. Peony root extract คือสารสกัดจากรากโบตั๋น ซึ่งดอกโบตั่นเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ประจำชาติของจีน คนจีนยกให้เป็นดอกไม้ของจักรพรรดิ ถือเป็น ดอกไม้แห่งเกียรติยศและความร่ำรวย ปลอบประโลมผิวจากการทำร้ายของรังสียูวีและมลภาวะ
  4. Yokinoshita เป็นดอกไม้ญี่ปุ่นสีขาวได้รับฉายาว่าเป็น “flower under snow” เนื่องจากสามารถเติบโตได้ภายใต้ชั้นหิมะ ช่วยปกป้อง DNA ในผิวจากการทำร้ายของรังสียูวีและมลภาวะ
  5. N-Acetyl tyrosine เป็นสารสังเคราะห์ที่เลียนแบบโครงสร้างของ Tyrosine ซึ่งเป็นสารตั้งต้นในการผลิตเมลานิน  ทำให้ N-Acetyl Tyrosine สามารถทำปฏิกิริยากับTyrosinase enzyme แทน Tyrosine ได้ซึ่งจะได้เป็นสารสีเหลืองแทนการเกิดเมลานิน 
  6. Glutathione เป็น whitening agent ที่ช่วยสังเคราะห์ Pheo-melanin ซึ่งเป็นเมลานินสีเหลือง แทนการเกิด Eu-melanin เมลานินสีคล้ำ ลดความหมองคล้ำของผิว
  7. Aminopropyl Ascorbyl Phosphate คืออนุพันธ์ของวิตามินซี (Vitamin C derivative) ที่มีความคงตัวสูง มีโมเลกุลขนาดเล็ก ทำให้ซึมลึกเข้าสู่ผิวได้ง่ายเสริมสร้างเซลล์ผิวใหม่ๆ เพื่อเผยผิวใหม่ที่กระจ่างใส
  8. สารอนุพันธ์จาก Resorcinol  : ออกฤทธิ์ในการลดเลือนจุดด่างดำช่วยให้ผิวแลดูกระจ่างใส ลดรอยกระ ฝ้า ปรับสีผิวที่ไม่เรียบเนียนให้สม่ำเสมอโดยไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองต่อผิว
  9. Tri Hydroxy Benzoic acid : ช่วยเพิ่มความกระจ่างใสให้กับผิว ลด Age spot ให้สีผิวสม่ำเสมอ และยังมีคุณสมบัติ ดังนี้ เป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่แรงกว่าวิตมินซี 4 เท่า ; ปกป้อง DNA ของผิวจากการทำลายของ UV A และ UVB; ป้องกันการอักเสบของผิวโดยลดการหลังสารถึงสองชนิด คือ NF-kB และ PGE-2; ยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานินได้ดีกว่า Kojic acid 60 เท่า; ป้องกันการส่งผ่านเม็ดสีที่สร้างแล้วไปสู่ผิวด้านบน; ยับยั้ง enzyme tyrosinase; ยับยั้งการหลั่งสาร MITF, the transcription factor involved in the genesis of melanin synthesis pathway
  10. Perpection Peptide P3 : ทำหน้าที่กระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวแบบเลียนแบบธรรมชาติของการผลัดเซลล์ผิวผู้อ่อนเยาว์ เป็นการลด Turnover time ของ Epidermis ผิวจึงเรียบเนียน กระจ่างใส ช่วยลดริ้วรอยเล็กๆ ปรับให้สีผิวสม่ำเสมอ และยังช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่
  11. Hydrolyzed Yeast Protein  : เป็นสารสกัดของโปรตีนจากยีสต์ (saccharomyces) ที่อุดมไปด้วยกรดอะมิโนและเปปไทด์สายสั้นๆ ที่ให้คุณสมบัติให้ผิวขาวกระจ่างใส โดยเป็นวตถุดิบที่มีความอ่อนโยนกับผิว และเป็น Ecocert compliance และมีผลการทดสอบประสิทธิภาพเรื่อง Whitening ที่ได้ผลดีมากกว่า Kojic acid                    

ราคา 1,290 บาท ขนาด 20 กรัม

เลขแจ้งจด 10-1-5859212

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่

Tel: 083-007-8589

Line ID: careandliving

เจ้าของร้าน เจ้าของแบรนด์

แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่อง : รวมวิธีรักษาและป้องกันฝ้าให้ได้ผล หน้าใสไร้ฝ้ามากวนใจ