ทำไมฉีด “วัคซีน” แล้ว ยังติด “โควิด-19” ได้อีก?
ทำไมฉีด “วัคซีน” แล้ว ยังติด “โควิด-19” ได้อีก? หลายคนอาจเคยมีประสบการณ์ หรือเคยได้ยินว่า ถึงจะฉีดวัคซีนแล้ว แต่ก็ยังเสี่ยงติดโควิด-19 ได้อยู่ จริงหรือไม่ แล้วเราจะฉีดวัคซีนกันไปทำไม อ. พญ.
ยาฟาวิพิราเวียร์ เป็นหนึ่งในยาที่สามารถใช้รักษาผู้ป่วยโควิด-19 ได้ แต่ต้องได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ที่ลงความเห็นว่าควรใช้ยาตัวนี้เท่านั้น ไม่ควรซื้อมากินเองเด็ดขาด เพราะยาฟาวิพิราเวียร์มีผลข้างเคียง และข้อบ่งใช้ที่ชัดเจน
ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน นักเทคนิคการแพทย์ หัวหน้างานตรวจโรคติดเชื้อทางโลหิตวิธีอณูชีววิทยาศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย โพสต์ลงเฟซบุ๊กเพจ หมอแล็บแพนด้า ถึงอาการผลข้างเคียงจากการใช้ยาฟาวิพิราเวียร์อย่างหนึ่งที่ค่อนข้างแปลก แต่เกิดขึ้นได้จริง นั่นคือ “ตาเปลี่ยนสี” เป็นสีม่วงน้ำเงิน และบางคนตาเรืองแสงได้ด้วย โดยระบุเหตุผลว่า
“… ฟาวิพิราเวียร์เป็นยาต้านไวรัสที่ อย่างที่เรารู้กันว่ามีฤทธิ์ต่อต้านอาร์เอ็นเอไวรัสหลายชนิด ก็เลยเอามารักษาโควิดเพราะโควิดมันเป็นไวรัส”
ฟาวิพิราเวียร์ อีกชื่อหนึ่งคือ 5-Fluoro-2-hydroxypyrazine-3-carboxamide ประกอบไปด้วยสารเรืองแสง เมื่อกินยาเข้าไปเพื่อรักษาโควิด-19 ประมาณวันละ 10 เม็ด ยาเลยกระจายไปทั่วร่าง ทั้งผิว เส้นผม เล็บ ลูกตา บางคนจะเห็นชัดเลยว่าเรืองแสง บางคนก็มองด้วยตาเปล่าแล้วเห็นเป็นสีม่วงๆ อย่างไรก็ตาม ร่างกายสามารถกำจัดออกไปได้ในระยะเวลาไม่กี่วัน ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายในแง่ของสีเหล่านี้
**รูปประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา**
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่อง : ยา “ฟาวิพิราเวียร์” รักษาโควิด-19 อาจทำให้ตาเปลี่ยนสี-เรืองแสง
เรื่องนี้ไม่อนุญาติ ให้แสดงความคิดเห็น