เรียกว่ากระแสตอบรับจากพี่น้องคนไทยเป็นอย่างดี สำหรับโครงการ ONE MAN & THE SEA หนึ่งคนว่าย หลายคนช่วย จนตอนนี้ยอดบริจาคหลังจากเปิดตัวโปรเจกต์เพื่อสังคม และ สัตว์ทะเลที่รอคอยเครื่องมือแพทย์ทะลุ 9 แสนบาท กันไปแล้ว (ยอด ณ วันที่ 19 ก.พ.63) และแน่นอน อย่างที่หนุ่มโตโน่

เคยบอกไปว่า โครงการของตนเอง ทำไม่ได้หากไม่ได้การร่วมมือ หรือ แรงสนับสนุนจากหลาย ๆคน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ น้องชายสุดซี้ ฟิลลิปส์ ทินโรจน์ ที่ขอเปิดใจถึงพี่ชายสุดซี้ และการตัดสินใจร่วมในโครงการ ที่จะเป็นกระบอกเสียงให้คนหันมาใจใส่สิ่งแวดล้อม และเห็นถึงความสำคัญของระบบนิเวศทางทะเล

เราเคยร่วมโครงการเก็บรักษ์กับโตโน่ ใช่ไหม ?

คำถามแรก เป็นคำถามปลายเปิดง่าย ๆ ที่เราเริ่มสนทนากับ นายแบบหนุ่ม ผู้ที่มีเอกลักษณ์ในการให้สัมภาษณ์ในแบบของตัวเอง คือ การพูดแทนตัวเองว่า “น้อง”  “ใช่ครับ น้องรู้จักกับพี่โตโน่ เพราะเรามีผู้จัดการคนเดียวกัน และน้องได้มีโอกาสไปร่วมโครงการเก็บรักษ์กับพี่โน่บ่อยมาก เรียกว่า ไปร่วมเก็บขยะแทบทุกครั้ง บางทีน้องก็เป็นช่างภาพให้กับโครงการด้วยครับ และเมื่อเราไปเก็บขยะกับพี่โน่บ่อย ๆ ก็เห็นว่า เรื่องขยะ เป็นเรื่องใกล้ตัว เป็นเรื่องสำคัญมาก ๆที่เราต้องคำนึงถึง เพราะว่า ขยะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ระบบนิเวศเสื่อมโทรม”

โครงการ ONE MAN & THE SEA หนึ่งคนว่าย หลายคนช่วย ฟิลลิปส์ เป็นหนึ่งคนสำคัญที่ขาดไม่ได้

“ก็ไม่ขนาดนั้นนะครับ น้อง ทำหน้าที่เป็นหนึ่งในทีมพายเรือคายัค ซึ่งจะมีหน้าที่คอย Support และ Safety พี่โน่ ระหว่างการว่ายน้ำตัวเปล่า ข้าม 12 เกาะ สุราษฏร์ – เกาะสมุย ระยะทาง 82 กิโลเมตร โดยหน้าที่ของทีมพายเรือ ไม่ว่าจะเป็น น้อง หรือ พี่ซัน เดอะดัสต์ และ ครูทัพพ์ พวกเราจะคอยเป็นหูเป็นตา ดูพื้นที่โดยรอบ ดูสัตว์ทะเล เช่น แมงกระพรุน  รวมถึง พยายามควบคุมเส้นทางการว่ายไม่ให้พี่โน่ และ ทีมว่ายเบี่ยงออกนอกเส้นทางที่วางไว้ เพราะว่า เวลาว่ายน้ำในทะเล กระแสน้ำ กระแสลม เราไม่สามารถควบคุมได้ ดังนั้นเราก็จะคอยดูแลพี่โตโน่ตลอด”

การพายเรือคายัค มีความเสี่ยง อะไรที่ทำให้เราตัดสินใจร่วมโครงการ ONE MAN & THE SEA

“หลังจากที่พี่โน่ ชักชวนน้องมาทำกิจกรรมในโครงการนี้ น้องตัดสินใจทันที เนื่องจากมองว่า เรื่องของขยะ และ เรื่องของสิ่งแวดล้อมเป็นหน้าที่ของมนุษย์ และเป็นจิตสำนึกของมนุษย์ ที่ต้องชวยกันแก้ไขสิ่งที่ตนเองทำร้ายธรรมชาติ เพราะมนุษย์ คือ คนที่ใช้พลาสติก มนุษย์ คือ คนที่ทิ้งขยะต่าง ๆ เลยรู้สึกว่า การทำโครงการนี้ มันเป็นหน้าที่ส่วนหนึ่งที่ต้องรับผิดชอบต่อสังคม”

ก่อนหน้านี้เราเคยพายเรือ คายัค มาก่อนไหม

“แค่เคยพายเล่นกับเพื่อน ๆ แต่ถ้าพายจริงจัง รู้ทักษะขั้นพื้นฐาน ก็เพิ่งได้มาเรียน มาฝึกซ้อม กับ ครูทัพพ์ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญที่พายเรือคายัคมาแล้วทั่วโลก และเมื่อน้องมาฝึกซ้อม น้องรู้เลยว่า การพายเรือคายัค สติ และทักษะ รวมถึงท่าทางในการพาย เป็นพื้นฐานสำคัญที่สุด ดังนั้นเมื่อว่างจากงานบันเทิงก็จะลงน้ำซ้อมตลอด”

อยากฝากอะไรถึงโตโน่ พี่ชายสุดซี้ คนนี้บ้าง

“น้อง เชื่อว่า โครงการ ONE MAN & THE SEA หนึ่งคนว่าย หลายคนช่วยของ พี่โตโน่ จะสำเร็จได้แน่ ๆ ดังนั้น น้อง ก็ขอเป็นกำลังใจและสัญญาจะทำหน้าที่ทีมพายเรือเพื่อ Support พี่โน่ ให้ดีที่สุด”

เราทำกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อม ฝากอะไรถึงคนไทยบ้าง

“น้อง เชื่อว่า ทุกวันนี้คนไทยตระหนัก และรับรู้ถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม พอสมควรแล้ว แต่สิ่งที่ขาดอยู่ตอนนี้คือ การลงมือปฎิบัติ ดังนั้น จึงอยากให้คนไทยช่วยกันลดใช้พลาสติก ใช้ซ้ำให้ได้มากที่สุด แยกขยะให้ถูกประเภท รวมไปถึงการหันมาหยิบถุงผ้าใช้ ใช้กระบอกน้ำ ในชีวิตประจำวัน เพราะเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องของทุกคนบนโลก”

ทั้งนี้ ฟิลลิปส์ ทินโรจน์ ขอเชิญชวนให้คนไทยร่วมกันส่งน้ำใจช่วยสัตว์ทะเลในการสมทบทุนซื้ออุปกรณ์หรือเครื่องมือแพทย์ เพื่อมอบให้กับศูนย์ช่วยชีวิตสัตว์ทะเลหายากสิรีธาร จังหวัดภูเก็ต, ส่วนงานช่วยชีวิตสัตว์ทะเลหายาก ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออก จังหวัดระยอง และ  ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล เกาะมันใน จังหวัดระยอง รวมไปถึง โรงพยาบาลริมชายฝั่ง โดยสามารถบริจาคผ่านทางบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเพชรบุรีตัดใหม่ ชื่อบัญชี: มูลนิธิบูรณะชนบทแห่งประเทศไทยฯ เพื่อโครงการเทใจ (TRRM FOR TAEJAI) เลขบัญชี 043-272833-9 สามารถติดตามรายละเอียดของโครงการได้ทาง Facebook Fanpage เก็บรักษ์  และทาง Instagram @kebruksociety