ปิดเมนู
หน้าแรก

ฝ้าแบบไหน กำจัดยังไงดี เรามีคำตอบ

เปิดอ่าน 827 views

ฝ้าแบบไหน กำจัดยังไงดี เรามีคำตอบ

ฝ้าแบบไหน กำจัดยังไงดี (Lisa) 

          

ไม่ต้องกังวลเมื่อฝ้ามาเยือน หากคุณรู้สาเหตุ ก็สามารถป้องกันได้ และเมื่อเกิดฝ้าขึ้นแล้ว คุณยังพอมีแนวทางในการเลือกวิธีรักษาตามคำแนะนำของแพทย์ผิวหนังอีกด้วย

สาเหตุ

           

ปัญหาเรื่องฝ้าเกิดจากการที่มีเม็ดสีเมลานิน (Melanin Pigment) สะสมในผิวหนังมากผิดปกติ เป็นปัญหาที่ควรระวังในหญิงวัยกลางคน แต่คุณสามารถป้องกันได้ตั้งแต่ยังสาวด้วยการทาครีมกันแดดเพื่อไม่ให้เซลล์ผิวถูกทั้งรังสี UVA และ UVB ทำร้ายนั่นเอง 

           

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่น ๆ อีกนั่นก็คือ ฮอร์โมน ฮอร์โมนเพศทั้งชนิดเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน มีส่วนทำให้เกิดฝ้าขึ้นได้ โดยเฉพาะในคนที่ใช้ยาคุมกำเนิดและสตรีมีครรภ์ แต่ฝ้านั้นจะจางลงได้เมื่อหยุดใช้ยาคุมกำเนิดและภายหลังการคลอดบุตร

           

ยาบางชนิดอาจมีส่วนทำให้ฝ้ามีสีคล้ำขึ้น เช่น ยากันชักชนิด Diphenylhydantoin เป็นต้น การแพ้เครื่องสำอาง อาการแพ้มักเกิดจากสีหรือน้ำหอมที่ผสมอยู่ในเครื่องสำอางที่ใช้พันธุกรรม เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คุณได้รับฝ้าเป็นมรดกตกทอดมาจากบรรพบุรุษได้

ชนิดของฝ้า

ฝ้ามีลักษณะเป็นผื่นสีน้ำตาล พบบริเวณแก้ม จมูก หน้าผาก เหนือริมฝีปากด้านบน และคาง ผื่นมักมีสีคล้ำขึ้น เมื่อถูกแสงแดด ดังนั้นจะแบ่งออกเป็น

           

  1. ฝ้าที่เกิดในบริเวณหนังกำพร้า มีลักษณะเป็นผื่นสีน้ำตาลเข้ม บริเวณขอบเขตของผื่นจะเห็นชัดเจน สามารถรักษาได้ง่ายเพราะเม็ดสีเมลานินฝังตัวอยู่ในผิวหนังไม่ค่อยลึก
  2. ฝ้าที่อยู่ในชั้นหนังแท้ ผื่นฝ้าจะเป็นสีน้ำตาลผสมสีเทาเข้ม ขอบเขตจะเห็นไม่ชัด เจนเพราะเมลานินฝังตัวลึก จึงรักษายากขึ้นตามไปด้วย
  3. ชนิดผสม ก็คือทั้งชนิดแรกและชนิดที่สองรวมกัน คือมีเม็ดสีเมลานินกระจายอยู่ทั้งในชั้นหนังแท้และชั้นหนังกำพร้า ในบางครั้งอาจต้องใช้กล้องแสงอัลตร้าไว้โอเล็ต (UV Camera) ช่วยในการวิเคราะห์ชนิดของฝ้า

How to Fix

การรักษาฝ้านั้นหลักสำคัญคือ

หลีกเลี่ยงหรือป้องกันปัจจัยที่จะกระตุ้นให้เกิดฝ้า หรือเป็นฝ้ามากขึ้น ควรเลี่ยงการใช้ยาคุมกำเนิดหรือยาชนิดอื่น ที่กระตุ้นให้ฝ้าคล้ำกว่าเดิม และพยายามเลี่ยงแสงแดด ควรเลือกครีมกันแดดที่กันได้ทั้งรังสี UVA และ UVB โดยควรมีค่า SPF ประมาณ 15-30 หรือมากกว่านั้น แต่ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง ๆ นั้นมักมีเนื้อเข้มข้น ซึ่งอาจทำให้ผิวมันและเกิดสิวได้ง่าย

Fast-Fix

Microdermabrasion การกรอผิวด้วยเกล็ดอัญมณี ถูกนำมาใช้ในการรักษาฝ้าเพื่อเร่งขจัดเซลล์ผิวชั้นหนังกำพร้าให้หลุดลอกเร็วขึ้น ใช้ได้ผลสำหรับฝ้าที่อยู่ในชั้นตื้น ๆ แต่อาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองได้ง่าย หากกำหนดระดับความแรงในการทำงานของเครื่องมือสูงเกินไป อาจทำให้เกิดบาดแผลถลอกและมีเลือดออกได้เหมือนกัน Intense Pulsed Light (IPL) การรักษาด้วยเครื่องให้กำเนิดแสงความเข้มสูงที่มีเลเซอร์ในการรักษาให้เลือกหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น Q-Switch, Nd : YAG, Q-Switch Ruby และ Fraxel ซึ่งใช้เทคนิคต่างกันออกไป แต่มีหลักการเดียวกันคือให้กำเนิดพลังงานแสงไปยังบริเวณผิวที่เกิดฝ้า ผิวหนังส่วนที่มีเมลานินมากกว่าปกติจะดูดซับพลังงานแสงแล้วเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน เมลานินที่เกินมาก็จะถูกทำลายและลดจำนวนลง ฝ้าก็จะจางหายไป 

แม้จะเห็นผลการรักษาได้ค่อนข้างรวดเร็ว แต่ก็ไม่สามารถป้องกันการเกิดเม็ดสีที่จะสะสมขึ้นมาใหม่ได้ ทำได้เพียงแค่หยุดการเกิดเม็ดสี ส่วนเกินเมื่อมันเกิดขึ้นเท่านั้น ดังนั้น ก็มีโอกาสที่ฝ้าจะกลับมาอีก หลังการทำเลเซอร์ จึงต้องทายาลดจำนวนเม็ดสีควบคู่กับการใช้ครีมกันแดดสม่ำเสมออยู่ นับได้ว่าการรักษาฝ้านั้นยังมีข้อจำกัดอยู่มาก และไม่สามารถรักษาให้หายได้ หากไม่รู้สาเหตุการเกิดฝ้าที่แน่ชัด ก็ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้ดีซะก่อน จึงจะปลอดภัย

Slow-Fix

การพยายามรักษาให้รอยคล้ำนั้นจางลง ได้แก่

เวชสำอางหรือผลิตภัณฑ์รักษาฝ้านั้นใช้วิธีการผลัดเซลล์ผิวชั้นหนังกำพร้าออกไป เพื่อให้เมลานินถูกขจัดออกไปได้เร็วขึ้น โดยมักใช้กรด AHA หรือกรดวิตามินเอที่ค่อนข้างให้ผลดี แต่มีผลกระทบคือจะทำให้ผิวหน้าระคายเคืองง่ายและไวต่อแสงแดด
  



ขอขอบคุณข้อมูลจาก

Vol.12 No.45 23 พฤศจิกายน 2554

ภาพ: Internet

Advanced Brilliant White Perfect Essence

สรรพคุณ เอ็สเซ็นต์ ลดเลือน รักษา ฟื้นฟูฝ้ากระ ในขั้นตอนเดียว

  1. Diglucosyl Gallic Acid เป็นสารสกัดที่ได้รับรางวัลเหรียญทองระดับโลก  Gold medal Active Ingredient  มีประสิทธิภาพในการกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่  ลดริ้วรอย ฝ้า กระ โดยออกฤทธิ์ดีกว่าวิตามินซี 4 เท่า และดีกว่ากรด Kojic Acid  60  เท่า  นอกจากนี้ยังไปลดการผลิตเม็ดสี Microphthalmia-Associated Transcription Factor (MITF) ภายในนิวเคลียสของเซลล์เมลาโนไซต์  และขัดขวางการผลิตเอนไซม์ Tyrosinase และ Tyrosinase-Related Protein-1 (TRP1) ซึ่งจำเป็นต่อการสังเคราะห์เมลานินอีกด้วย
  2. Malus Domestica Fruit Cell Culture Extract  เป็นสารออกฤทธิ์ที่อยู่ในรูปไลโปโซม (Liposome) ซึ่งบรรจุสารสกัดจากสเต็มเซลล์ของแอปเปิ้ลเป็นสารออกฤทธิ์ตัวแรกที่มาจากสเต็มเซลล์ของพืช  สามารถชะลอการชราของผิวได้โดยปกป้องเซลล์ที่มีความสำคัญที่สุดในผิวนั่นคือ สเต็มเซลล์ จึงคงความอ่อนเยาว์ของผิวเอาไว้ได้นานขึ้นและช่วยให้ผิวดูดี มีชีวิตชีวา
  3. Carnosine  ช่วยปรับสภาพผิวให้ดูกระจ่างใส อย่างอ่อนโยน และยังช่วยลดเลือนจุดด่างดำได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเห็นการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ 3 วันขึ้นไป
  4. Pyrus Malus (Apple) Fruit Extract, Citrus Medica Limonum (Lemon) Extract, Hydrolyzed Grape Fruit and Hydrolyzed Wheat Bran) ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน และถนอมบำรุงผิวให้ผิวสดใสเปล่งปลั่ง แลดูอ่อนเยาว์ เผยผิวใหม่สุขภาพดี กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ปกป้อง Collagen ไม่ให้โดนทำลาย 
  5. Taurine, Aspartic acid, Threonine, Serine, Asparagine, Glutamic acid, Proline, Glycine, Alanine,Citrulline, Valine, Cystein, Methionine, Isoleucine, Tyrosine,Phenylalanine,Tryptophan,Ornithine, Lysine,Histidine, Arginine, Magnesium PCA, Sodium Lactate, Sucrose, Copper Tripeptide-1, Urea, Sea salt, Potassium hydroxide, Ammonia, Uric acid, Creatine,Glucosamine HCl, Calcium chlorid, Magnesium citrate, Magnesium Chloride, Formic Acid, Dipotassium Phosphate, Butylene glycol, Ethylhexylglycerin กรดอะมิโนที่จำเป็นต่อผิว ที่ช่วยบำรุงให้ผิวนุ่มชุ่มชื่นเหมือนผิวเด็ก  เป็นเกราะป้องกันให้กับผิวและลดการสูญเสียน้ำ
  6. Rhamnose   น้ำตาลแรมโนส ได้จากกระบวนการบ่มแบคทีเรียธรรมชาติ เพื่อให้ได้โมเลกุลแรมโนส ซึ่งมีคุณสมบัติหลายด้าน เช่น ปกป้องผิวจากแบคทีเรียชนิดต่างๆ ลดการอักเสบของผิว และลดการเกิดกลิ่น
  7. Aloe Vera Extract ช่วยปรับสภาพผิวลดอาการแพ้ระคายเคืองโดยเฉพาะผิวที่ไหม้เกรียมแดด ปกป้องผิวจากรังสี UV สมานแผลเป็นต่างๆทำให้แผลหายเร็วขึ้น ลดการอักเสบและระคายเคืองของผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  8. Acetyl Glucosamine ทำหน้าที่เป็น Whitening และสามารถลดรอยจุดด่างดำ รวมถึงกระตุ้นให้ผิวสร้าง Hyaluronic Acid ได้ตามธรรมชาติ ทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น และช่วยลดริ้วรอยได้ ให้ความชุ่มชื้นอย่างอ่อนโยนจากภายใต้ชั้นผิว
  9. Niacinamide ช่วยลดริ้วรอย ลดรอยแดง/ดำ (Hyperpigment) เพิ่มความชุ่มชื้น ด้วยการกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจน และเซราไมด์ (Ceramide)  ทำให้ผิวแข็งแรง ต่อสู้กับการระคายเคือง (irritants) ต่างๆได้ดีขึ้น
  10. Tranexamic Acid ทำหน้าที่ให้ผิวขาว ลดการก่อตัวของเม็ดสี Melanin เหมาะสำหรับการใช้แก้ปัญหาฝ้า
  11. Allantoin ช่วยปลอบประโลมผิว ลดอาการแพ้ ระคายเคือง
  12. Betain ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวที่ได้จากธรรมชาติ (Moisturizing) และช่วยลดการระคายเคือง (Anti-irritant)
  13. Alpha Bisabolol มีประสิทธิภาพในการลดการระคายเคือง การอักเสบ การแพ้ และมีฤทธิ์ต่อต้านแบคทีเรีย
  14. D-Alphatocopherol ปกป้องเนื้อเยื่อเซลล์จากอนุมูลอิสระ ปกป้องผิวจากริ้วรอยและวัยที่เกิดขึ้นก่อนเวลาอันควร

ปกติ 1,000 ลดเหลือ 890 บาท

สนใจสอบถาม

Tel: 083-007-8589
Line ID: careandliving, @careandliving
FB: Careandliving Smith

www.careandliving.com

แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่อง : ฝ้าแบบไหน กำจัดยังไงดี เรามีคำตอบ