ปิดเมนู
หน้าแรก

“บั้งไฟพญานาค” สิ่งลี้ลับมหัศจรรย์แห่งลุ่มน้ำโขง

เปิดอ่าน 292 views

“บั้งไฟพญานาค” สิ่งลี้ลับมหัศจรรย์แห่งลุ่มน้ำโขง

“เชื่อในสิ่งที่เฮ็ด เฮ็ดในสิ่งที่เชื่อ”

ใกล้เทศกาล วันออกพรรษา เข้ามาแล้ว เชื่อว่าสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตในช่วงออกพรรษา ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ซึ่งปีนี้ ตรงกับวันที่ 5 ต.ค. 2560  แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นต้องมีแพลนไปชมความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่ยังไม่มีคำอธิบายเกี่ยวกับปรากฎการณ์นี้ได้ นั้นคือปรากฏการณ์แห่งลุ่มแม่น้ำโขง “บั้งไฟพญานาค ดวงไฟที่พุ่งขึ้นกลางลำน้ำโขง กล่าวกันว่าเห็นที่แม่น้ำโขง ลักษณะเป็นลูกกลมเรืองแสงลอยขึ้นจากน้ำขึ้นไปในอากาศ จำนวนลูกไฟ ที่พุ่งขึ้นจำนวนหลายสิบถึงหลายพันลูกต่อคืน 

และในปีนี้นักท่องเที่ยวได้นั่งรอชมบั้งไฟพญานาคเป็นจำนวนมาก ริมฝั่งแม่น้ำโขง และในเวลา 18.20 น. บั้งไฟพญานาคลูกแรกของปีนี้ก็เกิดขึ้นที่ อบต.โพนแพง อ.รัตนวาปี จำนวน 7 ลูก ขึ้นเป็นชุดต่อเนื่องกัน หลังจากนั้นก็มีบั้งไฟพญานาคเกิดขึ้นต่อเนื่องที่ บ้านเปงจาน ต.รัตนวาปี จำนวน 5 ลูก บ้านน้ำเป ต.รัตนวาปี จำนวน 2 ลูก บ้านหนองกุ้ง อ.โพนพิสัย จำนวน 5 ลูก ทำให้นักท่องเที่ยวที่มารอชมต่างยินดีที่ได้ชม ส่วนที่วัดไทย อ.โพนพิสัย

และที่พิเศษไปกว่านั้นยังมีนางเอกสาว “แต้ว ณฐพร” ได้รับเชิญให้ร่วมรำบวงสรวงบูชาองค์พญาศรีสัตตนาคราช ที่จัดขึ้นโดยเทศบาลโพนพิสัย จ.หนองคาย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพิธีเปิดงานเทศกาลออกพรรษาบั้งไฟพญานาคโลก

“บั้งไฟพญานาค” เป็นความเชื่อและตำนานเป็นพุทธบูชาในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 แต่ถ้าปีใดมีเดือน 8 สองหนจะตรงกับวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ของทุกปี จะเกิดปรากฏการณ์ขึ้นในวันออกพรรษาของทุกๆ ปี ณ จังหวัดหนองคาย บ้างก็ว่าลูกไฟนั้นขึ้นจากน้ำ บ้างก็ว่ามาจากบนบกของฝั่งลาวที่ห่างจากไทยประมาณ 1 กิโลเมตร ลักษณะบั้งไฟพญานาคเป็นดวงไฟขนาดเล็กเท่าหัวแม่มือจนถึงขนาดเท่าไข่ห่านหรือผลส้ม มีสีแดงอมชมพูออกสีบานเย็น

หรือสีแดงทับทิม ไม่มีควัน ไม่มีเขม่า ไม่มีเปลว ไม่มีเสียง ไม่มีกลิ่น จะเริ่มปรากฏจากเหนือผิวน้ำ ตั้งแต่ระดับ 1–30 เมตร พุ่งสูงขึ้นไปประมาณระดับ 50–150 เมตร เป็นเวลาประมาณ 5–10 วินาที แล้วจะดับหายวับไปในอากาศ ทั้งที่ดวงไฟยังโตอยู่ มิได้หรี่เล็กลงแล้วค่อย ๆ ดับ และไม่มีลักษณะโค้งตกลงมาเหมือนดอกไม้ไฟ

ซึ่งชาวบ้านเชื่อกันว่า…..ในวันออกพรรษา เป็นวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เหล่าเทวดาจึงเนรมิตบันไดเงินบันไดทองถวายเพื่อให้พระพุทธองค์ใช้เสด็จลงมายังโลกมนุษย์ พุทธศาสนิกชนทั้งหลายก็จะมาชุมนุมตามวัดเพื่อตักบาตรร่วมกัน เรียกว่าประเพณีตักบาตรเทโว เพราะเชื่อกันว่า พระพุทธเจ้าทรงพระกรุณาธิคุณ มนุษย์ไม่รู้ว่าบรรพบุรุษผู้ล่วงลับไปแล้วนั้นอยู่บนสวรรค์หรือในนรก ในระหว่างพระพุทธเจ้าเดินทางโปรดสัตว์น้อยใหญ่ จะทรงผายมือทั้งสองข้าง ปางนี้จึงเรียกว่า ปางเปิดโลก ทั้งสวรรค์ นรก เมืองมนุษย์ เมืองบาดาล จะเห็นกันในวันออกพรรษานี้

เหล่าพญานาคทั้งหลายในเมืองบาดาล ต่างชื่นชมยินดีในความมีน้ำใจของพระพุทธองค์ และเป็นการต้อนรับที่พระพุทธองค์เสด็จลงมาโปรดสัตว์ จึงสำแดงฤทธานุภาพพ่นลูกไฟบูชาพุทธคุณ หรือพุทธบูชา เราเรียกการกระทำของเหล่าพญานาคแห่งเมืองบาดาลนี้ว่า “บั้งไฟพญานาค” ดังนั้นในแต่ละปีจะมีพิธีกรรมบวงสรวงและจัดพิธีไหว้เรือไฟแม่น้ำโขง บูชาพญานาคเพื่อให้คุ้มครองป้องกันอันตรายต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในแม่น้ำโขง และเพื่อให้เกิดเป็นสิริมงคลต่อชีวิตเป็นประจำทุกปี จะมีประชาชนทั้งฝั่งซ้ายฝั่งขวาของแม่น้ำโขง และจากการเดินทางมาทั่วทุกสารทิศ เพื่อมาชมปรากฎการณ์มหัศจรรย์ที่ในหนึ่งปีจะมีให้ชมแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ถือว่าเป็นปรากฎการณ์ที่มหัศจรรย์เหนือคำบรรยาย

เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับปรากฏการณ์แปลกๆ ที่เกิดขึ้นไปทั่วโลกในปัจจุบัน ที่ยังไม่มีนักวิทยาศาสตร์ใดบนโลกสามารถอธิบายได้ถึงพลังงานเร้นลับ ซึ่งก็เป็นความเชื่อส่วนบุคคลแล้วแต่วิจารณญาณ

 

cr. horoscope.sanook.com

แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่อง : “บั้งไฟพญานาค” สิ่งลี้ลับมหัศจรรย์แห่งลุ่มน้ำโขง