ที่เที่่ยวเดือนมกราคม เที่ยวฟินไปทั่วไทย สนุกสนานต้อนรับปีใหม่

 

1. ภูลมโล จังหวัดเลย

เดือนมกราคม เป็นช่วงเวลาที่ยอดดอยภูลมโลจะเปลี่ยนผืนป่าให้กลายเป็นสีชมพูสะพรั่ง ด้วยมีการปลูกต้นนางพญาเสือโคร่งกว่า 1,200 ไร่ ที่นี่จึงเป็นจุดหมายปลายทางทีค่ฮอตฮิตของเดือนมกราคมที่นักท่องเที่ยวต่างตั้งตารอคอยได้ไปสัมผัส โดยภุลมโลตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ตำบลกกสะทอน อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย การเข้าไปเที่ยวชมทางอุทยานไม่อนุญาตให้ขับรถขึ้นไปด้านบน เพราะเกรงจะทำให้เกิดปัญหากับธรรมชาติและเป็นอันตรายต่อนักท่องเที่ยวในกรณีที่ไม่ชำนาญเส้นทาง สามารถดูรายละเอียดการเที่ยวภูลมโล 2561 เพิ่มเติมได้ที่ ภูลมโล 2560 เริ่มฤดูกาลดอกนางพญาเสือโคร่งมาเยือน

2. ชมดอกนางพญาเสือโคร่ง จังหวัดเชียงใหม่

เส้นทางชมดอกนางพญาเสือโคร่ง ถือได้ว่าเป็นเส้นทางดอกไม้ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดเส้นทางหนึ่งเลยล่ะ เพราะสีสันของดอกนางพญาเสือโคร่งที่เป็นสีชมพูหวาน ประกอบกับดอกนางพญาเสือโคร่งมักจะบานในฤดูหนาวบนยอดดอย มีให้ชมเพียงครั้งเดียวในหนึ่งปีเท่านั้น บรรยากาศจึงดูโรแมนติก น่าไปท่องเที่ยว

          

ในจังหวัดเชียงใหม่มีสถานที่ชมดอกนางพญาเสือโคร่งหลายแห่งเลยค่ะ เช่น ดอยอ่างขาง, ดอยแม่ตะมาน, ขุนช่างเคี่ยน, ขุนแม่ยะ, ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง), ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (แม่จอนหลวง), ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารีอินทนนท์ เป็นต้น โดยในแต่ละพื้นที่จะมีการบานไม่ตรงกัน ต้องตรวจสอบข้อมูลอย่างใกล้ชิด

3. ไร่สตรอว์เบอร์รี จังหวัดเชียงใหม่

          

จังหวัดเชียงใหม่ เป็นแหล่งปลูกสตรอว์เบอร์รีที่ใหญ่ที่สุดของเมืองไทย ซึ่งนอกจากมีผลิตภัณฑ์สตรอว์เบอร์รีผลสดให้เราได้เลือกซื้อทานกันอย่างจุใจแล้ว บางไร่ยังมีการเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าเที่ยวชมและเก็บผลสตรอว์เบอร์รีด้วยตนเอง มีการจัดตกแต่งพื้นที่ในไร่ให้สวยงาม น่าท่องเที่ยวและถ่ายรูป โดยเฉพาะในพื้นที่ของอำเภอสะเมิง ซึ่งจะมีการจัดงานเทศกาลสตรอว์เบอร์รีขึ้นเป็นประจำทุกปี ไร่สตรอว์เบอร์รีต่าง ๆ ก็เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมกันอย่างคึกคัก บางแห่งยังเปิดที่พักให้นักท่องเที่ยวได้นอนค้างคืนท่ามกลางไร่สตรอว์เบอร์รีอีกด้วย คาดว่าในปีนี้จะมีการเปิดให้เข้าชมไร่ได้ประมาณปลายเดือนมกราคม

4. ฟ้าประทาน ฟลอร่า พาร์ค วังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา

          

ฟ้าประทาน ฟลอร่า พาร์ค เป็นสถานที่ชมดอกไม้ที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของเมืองไทย และยังเป็นที่เที่ยววังน้ำเขียวห้ามพลาดอีกด้วย โดยที่นี่จะมีการจัดตกแต่งพื้นที่เป็นสวนดอกไม้อันสวยงาม ซึ่งจะมีดอกไม้และต้นไม้นานาพรรณมาจัดแสดง แยกเป็นซุ้มและโซนต่าง ๆ อย่างชัดเจน มีการทำจุดชมวิวมุมสูงให้นักท่องที่ยวได้เห็นสวนดอกไม้ในมุมกว้าง มองไปได้ไกลสุกลูกหูลูกตา นอกจากนี้ที่นี่ยังมีร้านอาหารและร้านกาแฟเล็ก ๆ ให้นักท่องเที่ยวได้มาแวะพักผ่อนระหว่างทางกันอีกด้วย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊ก Florapark Wangnamkeaw

5. ทะเลบัวแดง จังหวัดอุดรธานี

ทะเลบัวแดง อุดรธานี ตั้งอยู่ที่บึงหนองหาน อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี ถือได้ว่าเป็นทะเลบัวแดงที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดราว ๆ 10,000 ไร่ โดยจะเบ่งบานในช่วงเดือนธันวาคม-มีนาคมของทุกปี นักท่องเที่ยวจะได้นั่งเรือในยามเช้า ชมพระอาทิตย์สาดทอแสงลงบนสายหมอกเหนือดอกบัวสีชมพูหวานสะพรั่งกว่าล้านดอก ได้เห็นนกเป็ดน้ำและนกนานาชนิดออกหากินในยามเช้าท่ามกลางทะเลบัวละลานตา นับว่าเป็นประสบการณ์ที่คุณต้องมาสัมผัสกันด้วยตัวเองสักครั้ง ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ทะเลบัวแดง อุดรธานี 2560-2561 ชมพูสะพรั่งบานรับลมหนาว 

 

6. จังหวัดกาญจนบุรี

จังหวัดกาญจนบุรี เป็นจังหวัดที่สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปีเลยค่ะ เพราะมีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลายประเภทให้ได้ไปเที่ยวชมกัน ซึ่งมีทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ที่เที่ยวธรรมชาติ ร้านอาหาร ร้านกาแฟเก๋ ๆ พร้อมทั้งที่พักริมแม่น้ำไทรโยคสุดหรูหรา มีวัดวาอารามให้ไปไหว้พระทำบุญมากมาย ใครอยากจะไปตามรอยประวัติศาตร์ก็สามารถนั่งรถไฟเที่ยวชมเส้นทางรถไฟสายมรณะ ผ่านสะพานไทรโยคไปสู่ช่วงโค้งมรณะหรือถ้ำกระแซ อยากจะเล่นน้ำตกก็มีน้ำตกมากมายหลายแห่งให้ไปสนุกสนานกัน ไม่ว่าจะเป็นน้ำตกไทรโยค, น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น, น้ำตกเอราวัณ, น้ำตกจ๊อกกระดิ่น ทองผาภูมิ, น้ำตกเกริงกระเวีย สังขละบุรี, น้ำตกทุ่งนางครวญ, น้ำตกคลีตี้ เป็นต้น

          

ใครอยากเดินป่าก็มีเส้นทางเดินป่าหลากหลายเส้นทาง โดยเฉพาะเขาช้างเผือก และเขาสันหนอกวัว หรือถ้าอยากนอนแพชิล ๆ ก็มทั้งแพพื้นบ้านและแพโรงแรมหรูหราระดับ 5 ดาว ให้เลือกสรร เป็นสวรรค์น้อย ๆ ที่อยู่ไม่ไกลกรุงเทพฯ เลยล่ะ ^^

7. เขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี

เขาคิชฌกูฏ เป็นเส้นทางแสวงบุญที่พุทธศาสนิกชนนิยมไปสักการะเป็นประจำทุกปี ถือว่าเป็นอีกหนึ่งความท้าทายของคนชอบผจญภัย เพราะเส้นทางการขึ้นไปยังบนยอดเขานั้นค่อนข้างน่าตื่นเต้น นักท่องเที่ยวจะต้องนั่งรถโฟร์วีลผ่านเส้นทางคดเคี้ยวและสูงชันขึ้นไปบนภูเขา จากนั้นจึงเดินเท้าต่ออีกไปอีกประมาณ 1.2 กิโลเมตร เพื่อไปสักการะรอยพระพุทธบาทบนยอดเขา และไปชมหินลูกพระบาท เป็นก้อนหินขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บนยอดเขาได้อย่างน่าอัศจรรย์

          

นอกจากนี้ด้านบนภูเขายังสามารถมองเห็นวิวที่สวยงามของผืนป่าด้านล่าง ถ้าใครเดินขึ้นช่วงกลางคืน ก็จะเดินขึ้นมาถึงด้านบนราว ๆ รุ่งสาง จึงทำให้เห็นวิวที่สวยงามแปลกตา ทั้งนี้เขาคิชฌกูฏเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ ไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวภูเขาทั่วไป การเข้าไปไหว้พระทำบุญและเทที่ยวชมจึงแตกต่างจากที่เที่ยวภูเขาอื่น ๆ สามารถดูรายละเอียดการเที่ยวเขาคิชฌกูฏได้ที่ นมัสการพระบาทพลวง ที่เขาคิชฌกูฏจันทบุรี ปี 2561

8. ดอยแม่สลอง จังหวัดเชียงราย

ช่วงเดือนมกราคม ยังเป็นเวลาที่อากาศบนยอดดอยยังคงหนาวเย็น หลายสถานที่ท่องเที่ยวทางภาคเหนือก็ยังมีสภาพอากาศและภูมิประเทศที่น่าท่องเที่ยว โดยเฉพาะที่ดอยแม่สลอง อันเป็นถิ่นปลูกชาที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย เราจะได้เห็นไร่ชาสีเขียวที่ปลูกบนเขาเป็นแถวเรียงรายลดหลั่นกันลงมาตามความสูงชัน ยามเช้ามีสายหมอกและทะเลหมอกให้ได้ชมกันด้วย นอกจากนี้ยังจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตสุดเรียบง่ายของชาวบ้านเชื้อสายจีนยูนนานบนดอย ได้ลองชิมชาหลากหลายชนิดในราคาย่อมเยา และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ ให้ได้ไปเที่ยวอีกมากมาย

9. บ้านบ่อสร้าง จังหวัดเชียงใหม่

บ้านบ่อสร้าง เป็นหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงทางด้านงานหัตถกรรมมาช้านานหลายชั่วอายุคน โดยเฉพาะการทำร่ม อันเป็นเอกลักษณ์สำคัญอย่างหนึ่งของชาวล้านนา นักท่องเที่ยวจะได้ชมการผลิตร่มทั้งแบบผ้าฝ้าย ผ้าแพร และกระดาษสา มีการสาธิตตั้งแต่การเริ่มทำโครงร่มจากไม้ไผ่ ไปจนถึงขั้นตอนการเขียนลายลงบนร่ม ซึ่งนักท่องเที่ยวยังจะได้เลือกซื้อกลับไปเป็นของฝากของที่ระลึกกันอีกด้วย ทั้งนี้จะมีการจัดงานเทศกาลร่มบ่อสร้างและหัตถกรรมสันกำแพง ครั้งที่ 35 ประจำปี 2561 ตั้งแต่วันที่ 19-21 มกราคม 2561 ดูรายละเอียดได้ที่เฟซบุ๊ก เทศกาลร่มบ่อสร้างเชียงใหม่ Chiangmai Umbrella Festival

10. เกาะแสมสาร จังหวัดชลบุรี

เกาะแสมสาร เป็นที่เที่ยวทะเลใกล้กรุงเทพฯ ที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งที่ไม่อยากให้พลาด เพราะสามารถไปเที่ยวแบบเช้าไป-เย็นกลับได้ และท้องทะเลยังงดงามไม่แพ้กับท้องทะเลทางภาคใต้ของไทยเลยล่ะ และปัจจุบันยังมีให้จองคิวออนไลน์ได้ทางเว็บไซต์ kohsamaesarnnavy.com จองบัตรคิวเกาะแสมสาร จึงสะดวกสบายไม่ต้องไปนั่งรอคิวต่ช้า และคอยลุ้นว่าจะมีคิวให้หรือไม่ การเที่ยวเกาะแสมสาร นักท่องเที่ยวจะได้สนุกสนานกับการเล่นน้ำทะเล และทำกิจกรรมชายหาด ได้ดำน้ำชมปะการังกับท้องทะเลสีฟ้าคราม ใครชอบผจญภัย ก็มีเส้นทางเดินป่าให้ได้เดินขึ้นไปยังจุดชมวิว เพียงแค่วันเดียวก็เที่ยวทะเลสวยได้แบบฟิน ๆ 🙂

11. เกาะหมาก จังหวัดตราด

          

พอขึ้นปีใหม่ ท้องทะเลทางฝั่งตะวันออกก็เริ่มกลับมาสดใสสวยงามอีกครั้งแล้วค่ะ ใครอยากสัมผัสกับท้องทะเลสวย ๆ และความเงียบสงบ ต้องมาไม่พลาดมาเที่ยวเกาะหมากกันค่ะ เกาะหมากเป็นเกาะที่ตั้งอยู่ระหว่างเกาะช้างกับเกาะกูด ห่างจากฝั่งราว ๆ 38 กิโลเมตร เสน่ห์ของเกาะแห่งนี้ก็คือความเรียบง่ายและความเงียบสงบ เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่บนเกาะยังเป็นสวนมะพร้าว ชาวบ้านยังใช้ชีวิตกันแบบดั้งเดิม ไม่มีสถานบันเทิงเหมือนกับเกาะช้าง ชายหาดและเกาะใกล้เคียงต่าง ๆ ยังสวยงาม น้ำใสสะอาด มีปะการังและสัตว์ทะเลหลากหลายชนิดให้ได้ดำน้ำชมกันอย่างสนุกสนาน ดีขนาดนี้ ต้องเอาวันลาพักร้อนไปนอนพักผ่อนริมทะเลที่นี่เสียแล้ว ^^

12. เกาะไข่ จังหวัดภูเก็ต

ภาพจาก Korkusung / Shutterstock.com

เกาะไข่ ประกอบไปด้วยเกาะไข่นอกและเกาะไข่ใน มีลักษณะเป็นเกาะเล็ก ๆ อยู่กลางทะเลอันดามันระหว่างเกาะภูเก็ต และเกาะยาวใหญ่ จุดเด่นของทั้ง 2 เกาะคือ มีน้ำทะเลสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ใส พร้อมกับหาดทรายสีขาวเนื้อเนียนละเอียดนุ่ม โดยนักท่องเที่ยวสามารถที่จะมานอนเล่นบนชายหาด กินอาหารทะเลสุดอร่อย และทำกิจกรรมทางทะเลสนุก ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเจ็ตสกี, การเล่นบานานาโบ๊ท, การเล่นพาราชูต เป็นต้น ที่สำคัญยังมาเที่ยวได้แบบวันเดย์ทริปจากภูเก็ต ไม่ต้องใช้เวลาเดินทางมากมาย ไม่เหนื่อยจนเกินไป หรือใครจะซื้อแพ็กเกจเที่ยวรวมกับเกาะอื่น ๆ ด้วยก็ยังได้

13. เกาะรอก จังหวัดกระบี่

เกาะรอก ตั้งอยู่ระหว่างรอยต่อของน่านน้ำทะเลจังหวัดกระบี่และจังหวัดตรัง อยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา มีลักษณะเป็น 2 เกาะใหญ่ คือ เกาะรอกน้อย และเกาะรอกใหญ่ ความสวยงามของที่นี่ได้รับการขนานนามว่าเป็นราชินีแห่งท้องทะเลไทย ด้วยเกาะรอกมีหาดทรายที่ขาวสะอาด เนื้อทรายเนียนละเอียดและนุ่มราวกับผงแป้ง น้ำทะเลก็ใสแจ๋ว มองเห็นถึงปะการังที่อยู่ใต้น้ำได้หลายเมตรเลยทีเดียว โดยเฉพาะในช่วงเดือนธันวาคม-เมษายนที่ท้องฟ้าสดใส และคลื่นลมสงบ ที่นี่จะเป็นสวรรค์ย่อม ๆ ของคนรักทะเลเลยทีเดียว นอกจากนี้บริเวณรอบ ๆ ทั้ง 2 เกาะ ยังมีจุดดำน้ำตื้นที่สวยงาม มีปะการัง ดอกไม้ทะเล และสัตว์ทะเลหลากหลายชนิดให้ได้ชื่นชม สวยงามขนาดนี้ ใครไม่หลงรักที่นี่ก็บ้าแล้ว

14. หมู่เกาะสุรินทร์ จังหวัดพังงา

ช่วงเวลาที่คลื่นลมสงบ ท้องฟ้าแจ่มใส ไร้ซึ่งเม็ดฝนและมรสุม จะเป็นช่วงที่เหมาะแก่การท่องเที่ยวทะเลมาก ๆ ซึ่งในช่วงเดือนมกราคมก็เป็นช่วงเวลาที่เหมาะแก่การไปเยือนท้องทะเลอันดามัน โดยเฉพาะที่หมู่เกาะสุรินทร์ อันเป็นหมู่เกาะที่รวบรวมความสวยงามของสิมิลันไว้ให้ได้อย่างครบถ้วน ทั้งท้องทะเลสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ หาดทรายขาวสะอาดโดดเด่น โลกใต้ทะเลที่เต็มไปด้วยปะการังและดอกไม้ทะเลหลากสีสัน รวมทั้งสัตว์ทะเลหลากหลายชนิด ไม่เพียงเท่านั้นยังเป็นที่ตั้งของชุมชนชาวมอร์แกน ชุมชนคนพื้นเมืองดั้งเดิมที่หลงเหลืออยู่เพียงแค่แห่งเดียวในเมืองไทย แบบนี้มันต้องไปโดนสักครั้ง

         

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของสถานที่ท่องเที่ยวไทยที่น่าไปท่องเที่ยวในเดือนมกราคม ยังมีแหล่งท่องเที่ยวและประเพณีวัฒนธรรมที่น่าสนใจมากมาย เราจะมาอัปเดตให้เรื่อย ๆ นะคะ 🙂

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

, park.dnp.go.th, kohsamaesarnnavy.com, เฟซบุ๊ก เทศกาลร่มบ่อสร้างเชียงใหม่ Chiangmai Umbrella Festival, เฟซบุ๊ก Florapark Wangnamkeaw

travel.kapook.com