ข้อมูลจากโรงพยาบาลพญาไท ระบุว่า ในทุกๆ หนึ่งชั่วโมง จะมีคนไทยเสียชีวิตด้วยโรคหลอดเลือดหัวใจโดยเฉลี่ย 7 คน หรือนับเป็นปีละ 58,681 คน เราสามารถลดความเสี่ยงโรคหัวใจได้ง่ายๆ เริ่มด้วยการกินอาหารที่ช่วยบำรุงหัวใจ

โรคหัวใจ โรคยอดฮิตสาเหตุของการเสียชีวิตในคนไทยอันดับต้นๆ

โรคหัวใจ จัดเป็นหนึ่งในโรค NCDs หรือโรคไม่ติดต่อ ซึ่งมีสาเหตุอยู่หลายประการ แต่สาเหตุหลักมักมาจากกรรมพันธุ์ วิถีชีวิตที่ขาดการดูแลทั้งเรื่องการออกกำลังกาย และการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ และการรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสม เช่น โรคเบาหวาน มะเร็ง ไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง โรคอ้วน รวมไปถึงโรคหัวใจด้วย

กินไขมัน (เลว) เยอะ เสี่ยงหลอดเลือดหัวใจอุดตัน

อาหารไทยมีส่วนประกอบที่ใช้น้ำมัน และส่วนประกอบอื่นๆ ที่มีไขมันสูงมาก คนไทยยังสับสนและไม่รู้วิธีการเลือกใช้น้ำมันที่ถูกต้องอย่างแท้จริง ทำให้เราได้รับกรดไขมันที่ไม่เหมาะสมต่อร่างกาย และนี่คือสาเหตุหลักของโรคหลอดเลือดหัวใจ

ไขมัน ไม่ได้แต่ไขมันที่ไม่ดีต่อร่างกายแต่เพียงอย่างเดียว ยังมีไขมันที่ช่วยลดไขมันเลวในร่างกายที่เราควรกินให้มากขึ้นในแต่ละวันด้วย และไขมันดีนี้แหละ ที่จะช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจได้

ไขมันแบบไหนที่ดีต่อร่างกาย

อาหารที่มีไขมันไม่อิ่มตัว มีกรดไขมันดีที่ร่างกายต้องการ มีส่วนช่วยลดไขมันเลว (LDL) และเพิ่มไขมันดี (HDL) ช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย และยังมีสารสำคัญที่ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด จึงช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจได้ นอกจากนี้ยังช่วยลดโอกาสการเป็นโรคหลอดเลือดสมอง ลดความดัน และยังถูกใช้ในการสร้างเยื่อหุ้มเซลล์ประสาทด้วย

ไขมันไม่อิ่มตัว พบได้ในอาหารเหล่านี้

• ไขมันที่ได้จากเมล็ดพืช (น้ำมันมะกอก น้ำมันคาโนลา น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน น้ำมันข้าวโพด น้ำมันรำข้าว น้ำมันงา ฯลฯ)
• ปลาที่มีกรดไขมันสูง เช่น แซลมอน ทูน่า แมคเคอเรล และซาร์ดีน
• ธัญพืช เช่น ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต รำข้าว เมล็ดแฟลกซ์ เมล็ดเจีย
• ถั่วเปลือกแข็ง เช่น อัลมอนด์ ถั่วลิสง ถั่วพิตาชิโอ เม็ดมะม่วงหิมพานต์
• เต้าหู้ และถั่วเหลือง
• อะโวคาโด

ไขมันที่ควรหลีกเลี่ยง

ไขมันทรานส์ กินได้แต่ควรกินให้น้อยที่สุด เช่น ไขมันอิ่มตัว อาทิ ไขมันจากสัตว์ ไขมันจากนม เนย ชีส และจากพืชบางชนิด เช่น น้ำมันปาล์ม น้ำมันมะพร้าว กะทิ เป็นต้น

เมื่อเลือกกินไขมันให้ถูกชนิดได้ ก็จะช่วยบำรุงหัวใจให้แข็งแรง ลดเสี่ยงโรคอันตรายต่างๆ ได้แล้ว แต่อย่าลืมว่ายังต้องออกกำลังกายสัปดาห์ละอย่างน้อย 3-5 วัน ครั้งละอย่างน้อย 30 นาที และนอนหลักพักผ่อนให้เพียงพอวันละ 7-8 ชั่วโมงด้วย เท่านี้หัวใจของคุณก็จะแข็งแรงสมบูรณ์ไปได้อีกนาน