มีการค้นพบว่าการบูลลี่ในที่ทำงานไม่ได้ส่งผลต่ออารมณ์เท่านั้น แต่ยังส่งผลร้ายกับสุขภาพด้วย

ในปี 2015 Soma Ghosh ปัจจุบันอายุ 36 ปี ทำงานเกี่ยวกับที่ปรึกษา เธอเคยกลัวที่จะไปที่ทำงานทุกวัน เพราะเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งของเธอวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของเธอ กลั่นแกล้งเธอ จนเธอรู้สึกกังวลและซึมเศร้า เธอเริ่มป่วยง่าย เป็นหวัดซ้ำๆ มีก้อนเนื้อบางอย่างเกิดขึ้นบริเวณรักแร้ ปวดนิ้วมือฝ่ามือและไหล่ ซึ่งเกิดจากการทำงานและขาดการพักผ่อนที่เพียงพอ

นักวิจัยรู้เรื่องผลกระทบด้านสภาพจิตใจจากการข่มขู่ในที่ทำงานนี้มานานแล้ว แต่เมื่อเร็วๆ นี้จากการศึกษาบันทึกด้านสาธารณสุขในประเทศแถบสแกนดิเนเวียพบว่ามันมีผลต่อสุขภาพด้วย

จากผลการรายงานของมหาวิทยาลันโคเปนเฮเกนที่นำทีมโดย Tianwei Xu ได้ทำการสำรวจพนักงานเกือบ 80,000 คนทั้งชายและหญิง พบว่า 8-13% ของผู้ที่ตอบว่าถูกรังแกในที่ทำงานมีโอกาสเจ็บป่วยด้วยโรคหัวและโรคหลอดเลือดมากกว่าคนที่ไม่ถูกรังแกถึง 1.59 เท่า

นอกจากหัวใจที่ได้รับผลกระทบแล้ว ผลการศึกษาของผู้เข้าร่วมทดสอบในประเทศสวีเดน เดนมาร์ก และฟินแลนด์ พบว่า ผู้ที่ถูกบูลลี่ในที่ทำงานมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานประเภทที่ 2 เพิ่มขึ้น 1.46 เท่าในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา

ถึงแม้ว่ายังไม่มีหลักฐานออกมาเป็นชิ้นเป็นอันเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ Xu มั่นใจว่าการบูลลี่ในที่ทำงานส่งผลกับสุขภาพได้จริง เพราะมีผลในการกระตุ้นฮอร์โมนและความเครียด ซึ่งส่งผลต่อพฤติกรรมต่างๆ ที่นำไปสู่การเจ็บป่วยได้ ซึ่งเรื่องนี้กำลังมีการศึกษาต่อแน่นอนในอนาคต

นายจ้างทุกคนควรเฝ้าระวังและสังเกตเกี่ยวกับปัญหานี้ และสำหรับเหยื่อที่ถูกรังแกก็ควรจะรีบขอความช่วยเหลือให้เร็วที่สุด มันจะเป็นการดีมากถ้าที่ทำงานแต่ละที่มีวัฒนธรรมขององค์กรที่ไม่ส่งเสริมการบูลลี่

Soma Ghosh ผู้ก่อตั้งบริษัทที่ปรึกษาเกี่ยวกับอาชีพให้กับผู้หญิง กล่าวว่า นายจ้างควรจะปกป้องลูกจ้างจ้างการถูกบูลลี่ แล้วถ้าเธอเห็นงานวิจัยนี้ไวกว่านี้ เธอคงจะลาออกจากที่ทำงานไวขึ้นกว่าเดิม และเธอแนะนำว่าใครที่กำลังเจอปัญหาแบบนี้อยู่ควรจะปรึกษาใครสักคน เพราะเรื่องนี้มันไม่สามารถหายไปเองได้