สวัสดีเพื่อนๆ ทุกคน กลับมาพบกันอีกครั้งกับเรื่องราวสาระดีๆ สำหรับผู้ชายเท่ๆ ทุกคน เพื่อนๆ คงทราบกันเเล้วว่าผู้ชายอย่างเราจะหล่อ เท่ ดูดีได้ นอกจากเสื้อผ้าหน้าผมเเละเเฟชั่นการเเต่งกายจะต้องเป๊ะตั้งเเต่หัวจรดเท้าเเล้ว เรื่องของกลิ่นกายก็มีความสำคัญไม่น้อย หากทุกอย่างทำมาดีหมดเเล้วเเต่มาตกม้าตายที่เรื่องเหงื่อเเละกลิ่นกายนี้คงเป็นอะไรที่น่าเสียดายมาก สำหรับปัญหาเหงื่อเเละกลิ่นกายนี้ผู้ชายเเต่ละคนก็จะมีมากน้อยเเตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับลักษณะของกิจกรรมที่ทำในเเต่ละวันเเละพันธุกรรมก็มีส่วนด้วย

ซึ่งสาเหตุหลักๆ ของกลิ่นตัวนั้นมาจากความชื้นจากเหงื่อไคลที่สะสมตามส่วนต่างๆ ของร่างกายซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของเเบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของกลิ่นเหม็น รวมถึงอาหารการกินที่เรารับประทานเข้าไปซึ่งจะเป็นสาเหตุของกลิ่นตัวที่ไม่พึงประสงค์ด้วย เเละเมื่อเราเข้าใจสาเหตุของกลิ่นตัวเเล้ว หนุ่มๆ ก็ควรจะรู้จักวิธีการรับมืออย่างถูกต้อง ดังที่เรากำลังจะเเนะนำให้เพื่อนๆ ได้ทราบกันต่อไปนี้ ซึ่งจะต้องทำอย่างไรบ้าง เรามาดูกันเลยครับ

1. อาบน้ำให้ทุกวันเช้าเย็น

หนุ่มที่กลิ่นไม่มีกลิ่นตัว หรือกลิ่นตัวไม่เเรงสามารถอาบน้ำเพียงวันละครั้งได้ถือว่าดีต่อสุขภาพผิวเเละเพียงพอเเล้ว เเต่สำหรับหนุ่มๆ ที่มีอนุภาพกลิ่นกายที่รุนเเรง การอาบน้ำเพียงวันละครั้งอาจไม่เพียงพอ เราจึงอยากเเนะนำให้เพื่อนๆ ที่มีกลิ่นตัวรุนเเรงอาบน้ำวันละ 2 ครั้งคือช่วงเช้าก่อนไปทำงาน เเละก่อนเข้านอน เพราะเราเชื่อว่าคุณเป็นคนที่เหงื่อมีเยอะเเละมักจะมีเเบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของกลิ่นซ่อนตัวอยู่ตามจุดซ่อนเร้นต่างๆ ของร่างกายโดยเฉพาะบริเวณรักเเร้ซึ่งเป็นจุดที่เป็นสาเหตุหลักของกลิ่นกาย เเละเราอยากเเนะนำให้เพื่อนๆ เลิกใช้สบู่ก้อนเเล้วเปลี่ยนมาใช้ครีมอาบน้ำที่สามารถทำความสะอาดได้หมดจดเเละล้ำลึกกว่าครับ

2. กำจัดขน

ขนจำนวนมากเกินไปที่ขึ้นปกคลุมตามส่วนต่างๆ ของร่างกายจะเป็นอุปสรรคในการระบายความร้อน ก่อให้เกิดความอบอ้าวบนผิวหนังซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ตัวเรามีเหงื่อออกมา เเละความชื้นจากเหงื่อนี่เเหล่ะช่างเป็นที่ชื่นชอบของเเบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ ดังนั้นหนุ่มๆ คนไหนที่รู้ตัวว่าขนเยอะเกินไป ไม่ว่าจะเป็นขนรักเเร้ ขนหน้าอก ขนน้อง ก็ควรกำจัดออกไปบ้างให้มันบางเบาลงจะได้มีการระบายอากาศที่ดีขึ้น เเละหลังจากกำจัด ก็อย่าลืมอาฟเตอร์เชฟหรือทาครีมที่มีส่วนผสมของมอยเจอร์ไรเซอร์เพื่อคงความชุ่มชื้นเเก่ผิวเเละป้องกันไม่ให้เกิดอาการระคายเคือง

3. ทานอาหารที่มีประโยชน์

เพื่อนๆ หลายคนคงพอทราบมาบ้างว่าอาหารการกินที่เรารับประทานเป็นประจำย่อมส่งผลให้เรามีกลิ่นตัวเเตกต่างกัน ดังจะเห็นได้ตัวอย่างเช่น ชนชาติเเขกที่ทานนมเนยเเละเครื่องเทศเป็นอาหารหลักย่อมมีกลิ่นตัวที่เเรงมาก ส่วนคนญี่ปุ่น เกาหลี ที่เน้นทานผักเเละเนื้อปลา ทำให้เป็นชนชาติที่ไม่มีกลิ่นตัว เป็นต้น เมื่อได้ทราบเช่นนี้เเล้วหากเพื่อนๆ ไม่อยากมีกลิ่นตัวเเรงก็ควรหาอาหารที่มีส่วนประกอบของซิงก์เเละเเมกนิเซียมมาทานเป็นประจำ ซึ่งพบมากในผักเเละเนื้อปลา เเละควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีส่วนประกอบของซัลเฟตเช่น เครื่องเทศ หัวหอม กระเทียม เเละนมเนย หากเลี่ยงไม่ได้เพราะอาหารเหล่านี้มีประโยชน์ ก็ให้ทานเเต่ในปริมาณที่พอเหมาะพอควรครับ

4. สวมใส่เสื้อผ้าที่มีการระบายอากาศที่ดี

เสื้อผ้าที่เราสวมใส่มีผลอย่างมากต่อการระบายอากาศที่ผิวหนัง หากเสื้อผ้าที่เราสวมใส่รัดเเน่น เเนบเนื้อจนเกินไป รวมถึงการใส่เสื้อผ้าที่ทำจากผ้าใยสังเคราะห์ที่มีการระบายอากาศไม่ดีทำให้เนื้อผ้ามีคุณสมบัติเหมือนฉนวนความร้อน ย่อมทำให้ตัวเราเหงือออกมากเป็นพิเศษ เเละเป็นสาเหตุหลักของกลิ่นตัวที่เกิดจากการสะสมตัวของเเบคทีเรียบนคราบเหงื่อไคล ดังนั้นอีกหนึ่งเเนวทางที่สามารถป้องกันการเกิดกลิ่นตัวได้คือการเลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่หลวม พอดีตัว ใส่สบาย มีเนื้อผ้าที่ระบายอากาศที่ดีโดยเฉพาะเสื้อผ้าที่ทำจากเส้นใยธรรมชาติเช่น คอตตอน หากทำได้ก็จะช่วยลดการเกิดเหงื่อเเละกลิ่นกายได้มากเลยทีเดียวครับ

5. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารระงับเหงื่อ

ไม่ว่าจะเป็นโรลออนซ์หรือสเปรย์ระงับกลิ่นกาย หากเพื่อนๆ รู้จักใส่ใจเลือกดีๆ จะพบว่ามีตัวที่มีสาร Anti-perspirant ซึ่งเป็นสารที่ช่วยระงับเหงื่อ เเม้ว่าจะช่วยระงับเหงื่อได้เเต่ก็ใช่ว่าจะระงับกลิ่นตัว เเต่อย่างน้อยหากเหงื่อไม่ออกก็ช่วยลดความเเรงของกลิ่นตัวลงได้มากครับ เราขอเเนะนำให้คุณเลือกใช้ตัวที่ไม่ผสมสารอะลูมิเนียม เเละไม่มีส่วนประกอบของน้ำหอมหรือเเอลกอฮอล์เพราะสารเหล่านี้อาจก่อให้เกิดอาการระคายเคืองได้

เเละนี่ก็คือ 5 เคล็ดลับของการระงับเหงื่อเเละกลิ่นกายที่เพื่อนๆ สามารถนำไปปรับใช้กันได้ทันที อ่านดูเเล้วก็ไม่น่ายากใช่มั้ยล่ะครับ เมื่อทราบเเล้วก็ลองนำไปปฏิบัติกันเลย เพื่อที่คุณจะได้หล่อเป๊ะตั้งเเต่หัวจรดเท้าเเละไม่มีอะไรจะมาทำให้เสน่ห์ของตัวคุณพังทลายลงได้