
6 วิธีรักษา “ความดันโลหิตสูง” ด้วยตัวเอง อาจไม่ต้องกินยา
6 วิธีรักษา “ความดันโลหิตสูง” ด้วยตัวเอง อาจไม่ต้องกินยา ความดันสูง ลดได้ หากเราดูแลตัวเองตามเคล็ดลับไม่กี่ข้อนี้ อาจารย์ ดร.กภ.ธวัชชัย ลักเซ้ง สำนักวิชาสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
ชาเป็นใบพืชที่มีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด ทั้งชาเขียว และชาขาว แต่ชาขาวจะมีสารต้านอนุมูลอิสระมากขึ้นถ้าใส่ “มะนาว” ลงไปด้วย งานวิจัยในห้องทดลองพบว่า ชาสามารถยับยั้งการเติบโตของเนื้องอกหลายชนิด รวมทั้งเซลล์มะเร็งได้ หลักฐานว่าชายับยั้งการเติบโตของเนื้องอกหลายชนิด
งานวิจัยความสัมพันธ์ระหว่างการดื่มชาเขียวกับอัตราตายจากทุกสาเหตุในคนญี่ปุ่นอายุ 40-69 ปี จำนวน 90,914 คน ติดตามดูนาน 18.7 ปี มีคนตาย 12,874 คน เมื่อวิเคราะห์ความสัมพันธ์พบว่า ยิ่งดื่มชาเขียวเป็นจำนวนถ้วยต่อวันมาก ยิ่งมีอัตราตายต่ำกว่าผู้ดื่มชาเขียวน้อย หรือไม่ดื่ม โดยสัมพันธ์กับอัตราตายด้วยโรคหัวใจหลอดเลือดมากที่สุด
งานวิจัยเมตาอะนาไลซิส 12 รายการ เพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างการดื่มชากับความเสี่ยงการเป็นเบาหวาน พบว่า การดื่มชาวันละ 3 แก้วขึ้นไป สัมพันธ์กับการลดความเสี่ยงของเบาหวานชนิดที่ 2
การทบทวนงานวิจัยแบบสุ่มตัวอย่างเปรียบเทียบครอบคลุมกลุ่มตัวอย่าง 1,536 คน พบว่าชาเขียวลดความดันเลือดได้เล็กน้อย (1.94 มม. ปรอท) ลดคอเลสเตอรอลรวม และ LDL ในเลือดได้ปานกลาง (8%)
งานวิจัยแบบตัดขวางเพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างการดื่มชา กับการเกิดฟันหลุดร่วงในคนญี่ปุ่นอายุ 40-64 ปี จำนวน 25,078 คน พบว่า การดื่มชาวันละ 1 ถ้วยขึ้นไป มีความสัมพันธ์กับการลดความเสี่ยงเกิดฟันหลุดร่วงได้
งานวิจัยเมตาอะนาไลซิสผู้ป่วยพาร์กินสัน 2,215 คน เทียบกับคนทั่วไป 145,578 คน พบว่ายิ่งดื่มชามาก ยิ่งมีโอกาสเป็นพาร์กินสันน้อย
เราสามารถได้รับประโยชน์จากชาด้วยการดื่มชาวันละไม่เกิน 3-4 แก้ว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณคาเฟอีนที่เราสามารถทนได้ ไม่ดื่มแล้วนอนไม่หลับ งดการดื่มชาก่อนเข้านอน 3 ชั่วโมง และดื่มชาที่ชงด้วยใบชาจริงๆ ไม่ใส่น้ำตาล หรือเครื่องปรุงรสชาติอื่นๆ เพิ่ม จะได้ประโยชน์มากที่สุด
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่อง : “ชา” กับ 6 ประโยชน์ดีๆ ที่ควรดื่มเป็นประจำ
เรื่องนี้ไม่อนุญาติ ให้แสดงความคิดเห็น