เทรนด์ต่างประเทศที่เริ่มมีมาสักระยะแล้ว คือการ “ยืน” ทำงาน เพื่อลดการนั่งทำงานนานๆ เพราะการยืนทำงานเพิ่มการเลาญพลังงาน และยังช่วยลดโอกาสการเกิดโรคอ้วน เบาหวาน และโรคหัวใจได้ แต่ก็มีงานวิจัยอีกหลายฉบับออกมาคัดค้านว่า การยืนทำงานนานๆ ก็ส่งผลเสียต่อร่างกายไม่ต่างไปจากการนั่งทำงานนานๆ และยังไม่ได้ช่วยเผาผลาญพลังงานได้มากมายชัดเจนขนาดนั้น

อย่างไรก็ตาม การนั่งทำงานหน้าคอมนานๆ ยังเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำอยู่ดี ดังนั้นใครที่ต้องนั่งทำงานหน้าโต๊ะคอมพิวเตอร์ทุกวัน หากไม่อยากป่วยเป็นโรคต่างๆ ควรทำตามเคล็ดลับเหล่านี้

1. เดินไปรอบๆ ออฟฟิศ

ระหว่างที่นั่งปั่นงานอยู่ ลองตั้งเวลาให้ลุกขึ้นเดินไปเดินมาในออฟฟิศทุกๆ ชั่วโมงดู อาจจะเดินเข้าห้องน้ำ กดน้ำมาดื่ม ชงชา กาแฟ หรือเดินไปคุยงานกับแผนกอื่น การเดินบ่อยๆ ส่งผลต่อร่างกายดีกว่าการยืนทำงานเฉยๆ เพราะลดการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และเผาผลาญพลังงานได้มากกว่า

2. ติดเครื่องนับก้าว

ใครที่ติดโทรศัพท์สมาร์ทโฟนอยู่ตลอดเวลา อาจจะคอยเช็กได้ว่าใน 1 วันเราเดินไปกี่ก้าว กำหนดจำนวนก้าวที่ควรจะเดินให้ถึงในทุกๆ วัน ใครมีงบหน่อยก็อาจหาเครื่องนับก้าวแบบสวมข้อมือ เช่น Fitbit มาสวมแทนการถือสมาร์ทโฟนก็ได้ แล้วอย่าลืมเช็กจำนวนก้าวของตัวเองทุกวันด้วย ถ้ายังไม่ถึงก็เดินให้ถึงก่อนกลับบ้าน

3. วางดัมเบลเล็กๆ ไว้บนโต๊ะทำงาน

การยกน้ำหนักสามารถช่วนเพิ่มการเผาผลาญพลังงาน ยืดกล้ามเนื้อ เพิ่มความแข็งแรงของกระดูก บริหารสมอง และคลายเครียดในระหว่างวันได้อีกด้วย ดังนั้นหากหาเวลาช่วงพักชั่วโมง เดินเสร็จ แล้วมายกดัมเบลต่ออีก 5-10 ครั้ง รับรองว่าคุณจะได้กระชับกล้ามเนื้อระหว่างทำงานไปด้วยโดยไม่รู้ตัว

4. เลือกนั่งเก้าอี้ที่นั่งสบาย

อย่าลืมปรับระดับเก้าอี้ให้พอดีกับระดับโต๊ะ ไม่ทำให้เราต้องยกแขนเวลาพิมพ์งาน และเลือกเก้าที่มีเบาะนั่งนุ่มสบาย ไม่แข็งจนเกินไป เพื่อลดอาการปวดเมื่อยระหว่างวัน หากเก้าอี้นั่งไม่สบาย ควรหาอุปกรณ์มาช่วยให้เรานั่งได้สบายมากขึ้น เช่น เสริมเบาะหลังด้วยที่เสริมหลัง หรือหมอนอิงบางๆ เป็นต้น

5. นั่งหลังตรง

เมื่อได้เก้าอี้ที่ดีมาแล้ว อย่าลืมนั่งพิมพ์งานด้วยหลังที่ตรง เพราะเชื่อหรือไม่ว่าการนั่งหลังงอระหว่างทำงานตลอดทั้งวัน นอกจากทำให้เกิดอาการปวดหลังได้แล้ว ยังอาจนำไปสู่โรคที่อันตรายกว่าเดิมอย่างโรคเครียด และโรคซึมเศร้าได้อีกด้วย ดังนั้นอย่าลืมเตือนตัวเองให้นั่งหลังตรงตลอดเวลา จะให้เพื่อนที่ทำงานที่นั่งข้างๆ หรือนั่งตรงข้ามช่วยเตือนด้วยก็ได้

6. ดื่มน้ำให้มากขึ้น

ใครที่รู้ตัวว่าอยู่ในห้องทำงานตลอดเวลา แทบไม่ได้กระดิกตัวไปไหน อย่าลืมดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวันด้วย หาเวลาจิบน้ำๆ ทุกๆ ชั่วโมงที่พักเบรกก็ได้ จะตั้งขวดลิตรเอาไว้บนโต๊ะ แล้วพยายามดื่มน้ำให้หมดภายใน 1 วันก็ได้ แล้วสังเกตสีปัสสาวะของตัวเองด้วย หากสีปัสสาวะยังเป็นสีเหลืองเข้มอยู่ แสดงว่ายังดื่มน้ำไม่เพียงพอ ต้องดื่มน้ำเพิ่ม และตัวเลือกที่ดีที่สุดควรเป็นน้ำเปล่า หากเบื่อหรือขี้ลืมจริงๆ จะฝานผลไม้ที่เพิ่มความสดชื่นอย่างมะนาวลงไปในน้ำเปล่าด้วยก็ได้ (แต่หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูงด้วย)

7. ป้องกันแสงสีฟ้าจากจอคอม

แสงสีฟ้าจากหน้าจอคอมทำร้ายสายตา และผิวหน้าได้อย่างที่คุณคาดไม่ถึง ดังนั้นหากคุณใส่แว่น อย่าลืมเลือกเลนส์ที่ช่วยกรองแสงสีฟ้าด้วย หากไม่ได้ใส่แว่น ก็สามารถหาแว่นกรองเฉพาะแสงมาสวมใส่เวลาทำงานได้ หรือจะใส่แผ่นกรองแสงครอบที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ก็ได้เช่นกัน