ปิดเมนู
หน้าแรก

ไม่เหนื่อยก็ผอมได้ ! 11 วิธีลดหุ่นง่ายๆแบบคนขี้เกียจ

เปิดอ่าน 244 views

ไม่เหนื่อยก็ผอมได้ ! 11 วิธีลดหุ่นง่ายๆแบบคนขี้เกียจ

ไม่เหนื่อยก็ผอมได้ ! 11 วิธีลดหุ่นง่ายๆแบบคนขี้เกียจ

Pepperrr

สนับสนุนเนื้อหา

คนขี้เกียจแต่อยากผอมต้องอ่าน กับวิธีที่คุณแทบไม่ต้องกระดิกตัวบริหารร่างกาย

ทุกวันนี้เราอยู่ในสภาพสังคมที่ต้องศึกษาหาข้อมูลและก็ลงมือทำตามอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพูดถึงเรื่องการลดน้ำหนัก ซึ่งหากมีความเชื่อในวิธีการใดๆ แล้ว คุณก็มักจะต้องกระทำตามในทุกขั้นตอนแบบไม่มีผิดเพี้ยน โดยไม่สนใจว่ามันจะหนักหนาสาหัสแค่ไหน กับเป้าหมายที่อยากมีหุ่นฟิตและเฟิร์มอย่างที่ฝันเอาไว้ แต่ว่ากว่าจะถึงจุดนั้น มันต้องอาศัยแรงใจและแรงกายที่เกินร้อยจริงๆ ซึ่งนั่นเป็นเรื่องของคนที่มีความตั้งใจจริงๆ แล้วสำหรับคนขี้เกียจแต่อยากผอมหล่ะ จะเป็นไปได้มั๊ย …. ขอบอกว่าเป็นไปได้ เพียงแค่คุณทำตาม 11 วิธีง่ายๆนี้ คุณก็จะสามารถลดน้ำหนักลงได้ง่ายๆในแบบที่แทบไม่ต้องกระดิกนิ้ว จะรอช้าอยู่ทำไม ไปดูกันเลยว่าวิธีที่ว่านั้นมีอะไรบ้าง

 

1 ปรับวิธีการกิน

มันไม่ผิดเลยที่คุณจะกินชอคโกแลต ตราบใดที่คุณมีรูปแบบการกินที่ถูกต้องเหมาะสม ตามงานวิจัยระบุไว้ว่า “การกินอย่างมีสติ” จะทำให้คุณกินอาหารได้อย่างมีความสุข และช่วยป้องกันไม่ให้ทานอาหารมากเกินไปในแต่ละมื้อ ซึ่งหลักการก็คือ กินเมื่อหิว เลิกกินเมื่ออิ่ม และไม่ต้องรู้สึกผิดเมื่อกินเข้าไปแล้ว แค่นี้ก็ทำให้คุณมีความสุขกับการกินแล้ว และยิ่งคุณเป็นคนชอบกินของหวานเป็นชีวิตจิตใจ แนะนำเลยว่าให้ดื่มด่ำกับความอร่อยของมันให้มากที่สุด แบบไม่ต้องกังวล เพราะยิ่งคุณมีความสุขมากเท่าไหร่ ของหวานเหล่านั้นก็จะยิ่งเผาผลาญเร็วขึ้นตามไปด้วย

 

2 ดื่มน้ำ 2 แก้วก่อนอาหาร

 

ต้องถามตัวเองก่อนว่าคุณหิวจริงๆ หรือคุณแค่กระหายน้ำ ? จากผลวิจัยระบุไว้ว่า คนส่วนใหญ่มากกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ มักจะตอบสนองความกระหายด้วยการหาอะไรมากิน แทนที่จะดื่มน้ำเข้าไป ซึ่งนั่นถือว่าผิดถนัด อันที่จริงคุณควรจะดื่มน้ำเข้าไปมากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนอาหาร เพราะการดื่มน้ำที่ปราศจากแคลอรี่นั้น จะสามารถเผาผลาญพลังงานออกไปได้หลายร้อยแคลอรี่ จากอาหารที่คุณกินเข้าไปในแต่ละวัน และหากไม่อยากดื่มน้ำเปล่า คุณก็สามารถปลอกผลไม้เปรี้ยวๆใส่ลงไปเพื่อเพิ่มรสชาติสักหน่อยก็ได้ อย่างส้มหรือมะนาว เพราะนอกจากจะทำให้มีรสชาติแล้ว ยังสามารถทำหน้าที่เป็นน้ำดีท็อกซ์ ช่วยล้างพิษในลำไส้ได้อีกทางนึงด้วย จากการศึกษาในประเด็นนี้พบว่าการดื่มน้ำ 2 แก้วก่อนอาหาร จะช่วยลดปริมาณแคลอรี่ลงไปได้กว่า 75-90 แคลอรี่ ของอาหารที่กินเข้าไป รู้อย่างนี้แล้วจะรอช้าอยู่ทำไมดื่มน้ำเข้าไปดีกว่า ง่ายกว่าเยอะ

 

3 ซ่อนให้อยู่ห่างจากสายตา

 

ถ้าคิดว่าตัวเองเป็นคนที่เห็นอะไรแล้วทนไม่ได้ ต้องหยิบฉวยเอามาเข้าปาก ดังนั้นวิธีแก้ที่ง่ายและตรงจุดมากที่สุดก็คือการนำไปซ่อนไว้ไม่ให้เห็น คือถ้าไม่เห็นก็ไม่กิน แต่ถ้าซ่อนแล้วยังขวนขวายพยายามหยิบมากินอีก อันนี้ก็ช่วยไม่ได้ ซึ่งสิ่งที่ควรทำมากที่สุดสำหรับข้อนี้ก็คือของจำพวก ขนมหวาน ลูกอมต่างๆ เพราะเจ้าของพรรค์นี้แหละ หากคุณบริโภคมากเกินไป อาจทำให้ปริมาณแคลอรี่ของคุณเพิ่มขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ อย่างงานวิจัยหนึ่งในระบุไว้ว่า การบริโภคชอคโกแลต “เอ็ม แอนด์ เอ็ม” ติดต่อกันสามารถทำให้มีปริมาณแคลอรี่เพิ่มขึ้นสูงถึง 3.1 ล้านแคลอรี่ ภายในเวลาแค่ 7 สัปดาห์เท่านั้น ฟังดูน่ากลัวใช่มั๊ย ดังนั้นก็บริโภคแต่พอเหมาะ ไม่เยอะจนเกินไป น้ำหนักคุณก็จะลดลงได้เอง

 

4 ใส่เครื่องเทศสดลงไปในอาหาร

การใส่พริกไทยดำป่น หรือโรยเครื่องเทศสดๆ ลงไปในอาหาร นอกจากจะดีต่อสุขภาพแล้ว อีกนัยนึงก็ยังเป็นกลเม็ดช่วยทำให้น้ำหนักลดลงได้ด้วย จากการศึกษาพบว่าสารสกัดจากพริกไทยดำจะช่วยดักจับไขมันจากอาหารกินเข้าไป และยังช่วยยับยั้งการสร้างไขมันในร่างกายได้อีกด้วย และหากกินเป็นประจำก็จะทำให้โอกาสกลับมาอ้วนนั้นยากขึ้น เช่นเดียวกับเครื่องเทศชนิดอื่น หากคุณนำมาใช้ปรุงอาหาร ก็จะทำให้คุณไม่จำเป็นต้องปรุงแต่งรสชาติใดๆที่เสี่ยงต่อการเพิ่มไขมันและปริมาณแคลอรี่เข้าไปในอาหาร เนื่องจากสมุนไพรส่วนใหญ่จะมีกลิ่นฉุนและมีรสชาติที่แหลมอยู่แล้ว ดังนั้นหากอยากผอมหุ่นเพรียว ทางที่ดีก็ควรซื้อสมุนไพรติดตู้เย็นไว้บ้าง

 

5 หาตัวช่วยคอยแจ้งเตือนปริมาณแคลอรี่ที่คุณควรได้รับในแต่ละวัน

 

ข้อนี้อาจต้องใช้เทคโนโลยีในการสื่อสารเข้ามาเกี่ยวข้องเล็กน้อย ก็อย่างว่าคนธรรมดาอย่างเราๆ คงไม่มีใครหรอกที่จะรู้อย่างถ่องแท้ไปหมดทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องคุณประโยชน์ของอาหาร ดังนั้นการขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญให้คอยส่งข้อความแจ้งเตือน เกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ไม่เสียหายอะไร แต่ประเด็นก็คือคุณต้องไตร่ตรองให้ดี หาผู้ที่รู้จริง ไม่ใช่ใช้ช่องทางนี้แอบแฝงโฆษณาขายของ ซึ่งข้อดีของมันก็คือคุณจะได้รู้ว่าในแต่ละวันคุณควรได้รับปริมาณแคลอรี่มากน้อยแค่ไหน และอาหารประเภทใดบ้างที่คุณควรบริโภคในแต่ละมื้อ

 

6 เปิดไอพอดฟังเพลงเร็วๆไปขณะเดินซื้อของในตลาด

 

อาจจะฟังดูตลก ว่าการฟังเพลงจะช่วยลดน้ำหนักได้อย่างไร แต่จากการศึกษาโดยละเอียดยืนยันว่าการใส่หูฟังเดินฟังเพลงที่คุณชื่นชอบไปขณะเดินเลือกซื้อของในตลาดหรือห้างสรรพสินค้า จะช่วยให้คุณไม่หยิบของที่ไม่ต้องการใส่รถเข็นหรือตะกร้า อย่างพวกขนมนมเนยเป็นต้น และเหตุผลที่ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำมักจะเปิดเพลงช้า เบาๆเย็นๆ ให้ลูกค้าฟัง ก็เพราะพวกเขาเชื่อว่านั่นจะทำให้ลูกค้าใช้เวลาเดินเลือกซื้อสินค้านานขึ้น นี่ไม่ได้เป็นการพูดลอย มีงานวิจัยระบุว่าเพลงช้านั้นจะทำให้ใช้เวลาเดินในห้างนานขึ้น 39 เปอร์เซ็นต์ และซื้อสินค้าใส่รถเข็นเพิ่มขึ้นกว่า 29 เปอร์เซ็นต์ รู้เช่นนี้แล้วจะไปหลงกลพวกเขาทำไม จัดเพลงร็อคใส่ไอพอดไปเลย ดูสิว่าจะผอมลงมั๊ย

 

7 นำวัฒนธรรมการกินแบบญี่ปุ่นมาใช้

 

“ฮารา ฮาซิ บู” เป็นคำในภาษาญี่ปุ่น ซึ่งแปลกว่า “การกินให้อิ่มเพียง 80 เปอร์เซ็นต์” ซึ่งหากคุณฝึกให้เป็นนิสัยกับการกินอาหารทุกมื้อ คุณจะลดแคลอรี่เฉลี่ยลงไปได้ถึง 300 แคลอรี่ต่อวัน ซึ่งผลของมันนอกจากจะทำให้น้ำหนักลดลงได้แล้ว ยังทำให้มีสุขภาพดีและอายุยืนอีกด้วย ส่วนอีกอย่างก็คือลองฝึกใช้ตะเกียบกินอาหาร เพราะนั่นจะทำให้คุณลดความเร็วในการกินลง และรู้สึกอิ่มไวขึ้น ที่กล่าวเช่นนี้ก็เนื่องมาจากมีงานวิจัยที่ระบุว่าร่างกายของเราต้องใช้เวลาเกือบ 30 นาทีกว่าจะส่งสัญญาณความอิ่มออกมา ดังนั้นการใช้ตะเกียบก็เป็นเหมือนการประวิงเวลาเอาไว้ ยิ่งไปกว่านั้นการศึกษาสำรวจจากร้านอาหารพบว่าลูกค้าที่มีน้ำหนักมาตรฐานจะใช้ตะเกียบกินอาหารมากกว่าลูกค้าที่มีรูปร่างอ้วน ถึง 3 เท่าตัวเลยทีเดียว ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ฝึกใช้ดูไม่เสียหลาย

 

8 หาเวลาหัวเราะด้วยการนอนดูรายการตลกทางทีวี

 

ลดน้ำหนักด้วยการหัวเราะ ฟังดูแปลกๆ แต่จากการศึกษามายืนยันแล้วว่าการหัวเราะจนท้องแข็ง มีส่วนทำให้อัตราการเผาผลาญพลังงานเพิ่มขึ้น 10-20 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว ซึ่งนั่นหมายความว่าปริมาณแคลอรี่จะถูกเผาผลาญไปได้ถึง 40-170 แคลอรี่ต่อการหัวเราะทุก 10-15 นาที ดังนั้นถ้าทำได้หัวเราะไปเลย 2 ชั่วโมงต่อวันต่อเนื่องไปเรื่อยๆ น้ำหนักคุณจะลดลงไปได้อย่างน้อย 3.5 ปอนด์ เมื่อครบเดือน จะจริงไม่จริงก็ต้องลองทำดู ไหนก็ขี้เกียจอยู่แล้ว อีกอย่างมันก็ไม่ได้ยากเกินไปเลย แถมยังได้นอนดูหนังสบายใจเฉิบด้วย

 

9 กินขนมประทังหิวในช่วงบ่าย

 

ก็อย่างที่บอกว่าขนมนั้นกินได้ไม่มีปัญหา แต่นอกจากจะต้องจำกัดปริมาณให้พอเหมาะแล้ว ทางที่ดีควรดูเวลาที่เหมาะสมด้วยก็จะดีมาก ซึ่งการทานหลังอาหารมื้อเที่ยง 2 ชั่วโมง น่าจะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด เพราะน้ำตาลในเลือดจะกลับมาอยู่ในระดับปกติแล้ว ดังนั้นถึงเราจะกินขนมหรือของหวานเข้าไป ก็จะไม่มีผลไปทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นทันที

 

10 ใส่กางเกงยีนส์

 

ประมาณว่าว่างจากการทำงานเมื่อไหร่ อย่ารอช้าหยิบกางเกงยีนส์ มาใส่เลย ยิ่งใส่ได้หลายวัน โอกาสที่คุณจะผอมแบบไม่ต้องออกแรงเหนื่อยก็มีสูง ที่เป็นเช่นนั้นก็เป็นเพราะการใส่กางเกงยีนส์นั้นจะทำให้คุณเดินไปไหนมาไหนได้อย่างทะมัดทะแมงยิ่งขึ้น ซึ่งผลจากการศึกษาระบุว่าผู้ที่ใส่กางเกงยีนส์ สามารถเดินก้าวได้มากกว่าคนที่ใส่ชุดสูทผูกไทค์ ถึง 491 ก้าว และเผาผลาญพลังงานได้มากกว่า 25 แคลอรี่ และถ้าใส่กางเกงยีนส์เพียงแค่สัปดาห์ละวันติดต่อกันเป็นเวลา 1 ปี ก็จะสามารถลดปริมาณแคลอรี่ ไปได้มากถึง 6,250 แคลอรี่เลยทีเดียว

 

11 ต้องแอบงีบบ้าง

 

การบริหารร่างกายที่ดีที่สุดสำหรับคนขี้เกียจที่อยากลดน้ำหนัก ก็คือแอบไปหาที่นอน ไม่จำเป็นต้องนอนแบบเอาเป็นเอาตายจนการงานไม่ทำ แค่แอบงีบเป็นระยะก็ผอมได้แล้ว เพราะการหลับก็คือการเพิ่มฮอร์โมน เกรลิน ฮอร์โมนควบคุมความอยากอาหาร ซึ่งจะทำให้เราไม่อยากอาหารโดยไม่จำเป็น พร้อมกับจะไปลด ฮอร์โมน เลปติน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำให้รู้สึกหิว และนั่นก็จะทำให้เราไม่หิวเก่ง

 

หากทำตามทั้ง 11 ข้อคุณคิดว่าจะลดน้ำหนักได้หรือไม่ ?

แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่อง : ไม่เหนื่อยก็ผอมได้ ! 11 วิธีลดหุ่นง่ายๆแบบคนขี้เกียจ