ปิดเมนู
หน้าแรก

เดินอย่างไรให้ “ผอม” และแข็งแรงไม่เป็นโรค

เปิดอ่าน 180 views

เดินอย่างไรให้ “ผอม” และแข็งแรงไม่เป็นโรค

สสส. (2)

สนับสนุนเนื้อหา

ในชีวิตเราเลือกทางเดินได้เสมอ ไม่ต่างอะไรกับการดูแลสุขภาพ ที่ส่งผลไปถึงรูปร่างของตัวเราเอง การที่เรามีน้ำหนักเกิน รู้สึกอึดอัด นำพาไปสู่ภาวะโรคแทรกซ้อนมากมาย การมีกิจกรรมทางกายจึงเป็นตัวช่วยสำคัญที่เราสามารถทำได้ในแต่ละวัน เพื่อใช้ในการสร้างสุขภาพที่ดี ซึ่ง สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้มองเห็นประโยชน์ของกิจกรรมทางกาย ว่าด้วยเรื่อง การเดิน ปั่นจักยาน หรือวิ่ง รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ให้ครบทั้ง 4 มิติ จะช่วยให้คนไทยก้าวสู่สังคมแห่งการมีสุขภาพที่ดี รวมถึงในปีนี้ สสส. มีการต่อยอดงานเพิ่มกิจกรรมทางกายในกลุ่มเยาวชน โดยจัดทำ “คู่มือโรงเรียนรักเดิน” เพื่อส่งเสริมให้เกิด “โรงเรียนรักเดิน” ในพื้นที่อื่น ๆ ของประเทศเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะการเดิน นั้นเป็นกิจวัตรประจำวันที่ทุกคนต้องปฏิบัติทุกวัน หากทรอดแทรกการเดินที่ถูกวิธีเข้าไป จะยิ่งช่วยให้ส่งเสริมสุขภาพดีมากยิ่งขึ้น

การก้าวเดินอย่างไร ให้ถูกวีธี นอกจะช่วยเผาผลาญแล้ว การเดินช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิตและเพิ่มปริมาณออกซิเจนให้กับเซลล์ทุกเซลล์ในร่างกาย ช่วยให้รู้สึกตื่นตัวและมีชีวิตชีวา

  1. ขณะเดินตามองตรงไปข้างหน้า ศรีษะและลำตัวตั้งตรง ใหล่สองข้างอยู่ในระดับตรง
  2. แกว่งแขนซ้ายขวาสลับหน้าหลังขนานลำตัว มือทั้งสองข้างกำหลวมๆ โดยแกว่งมือสูงระดับอกในลักษณะผ่อนคลาย งอศอกเล็กน้อย ทำมุมราว 90 อฝศาระหว่างแขนท่อนบน-ล่าง
  3. จังหวะในการก้าว ควรก้าวสม่ำเสมอตลอดระยะทางที่เดิน ไม่เดินทอดน่องหรือเดินตามสบาย
  4. เวลาเดินส้นเท้าสัมผัสพื้น รับน้ำหนักตัวก่อนปลายเท้า ก้าวเท้าออกไปประมานครึ่งก้าว ให้ส้นเท้าแตะพื้นให้เต็มฝ่าเท้า ส่วนขาอีกข้างเมื่อกำลังจะเคลื่อนย้าย ให้ยกส้นเท้าขึ้นถ่ายน้ำหนักตัวลงที่ปลายเท้าซึ่งกดพื้นไว้ ทำเช่นนี้ไผปเรื่อยๆ ตลอดเวลาที่เดินจะช่วยบริหารกล้ามเนื้อหน้าแข้ง เป็นการเดินเพื่อสุขภาพที่ถูกต้อง และส่งเสริมบุคลิกภาพด้วย
  5. ความยาวของช่างการก้าวเท้าขึ้น นั้นอยู่กับความเร็วในการเดิน ที่สำคัญต้องไม่ก้าวยาวมากเกินไป เพราะจะทำให้เมื้อยล้ากล้ามเนื้อต้นขา และสะโพกเร็วกว่าปกติ ส่วนถ้าเดินขึ้นเนิน ควรเดินให้ช้าลง เอนตัวไปด้านหน้าเล็กน้อย แกว่งแขนให้มากขึ้นเล็กน้อย แล้วเมื่อเดินลงเนิน พยายามควบคุมความเร็วไว้ ด้วยการก้าวสั้นๆ และวางเท้าเบาๆ

เคยสงสัยไหมว่าหากเราเดินอย่างถูกวิธีแล้ว แต่ควรเดินมากน้อยแค่ไหนถึงจะพอ? ถึงแม้ว่าการเดินอาจจะเผาผลาญได้ไม่มากเท่ากับการออกกำลังกายด้วยวิธีอื่น แต่การเดินอย่างสม่ำเสมอ และเพียงพอในแต่ละวันต่อสัปดาห์ก็ช่วยให้สุขภาพแข็งแรงขึ้นได้ ด้วยวิธีดังนี้

  1. ควรเดินให้ได้ในระยะทาง 2.5-3.5 กิโลเมตรต่อวัน หรือ 10,000 ก้าว ฟังดูอาจจะเหมือนไกล แต่ถ้าเริ่มฝึกไปเรื่อยๆ ก็สามารถเดินได้ไกลกว่านี้อีกหลายเท่า
  2. ถ้ารู้สึกว่านับก้าวมันอาจดูยุ่งยากไป ก็ลองใช้วิธีง่ายๆ คือเดินให้ได้อย่างน้อย 30 นาที และนำมาบวกรวมกันให้ได้ 150 นาที ต่อสัปดาห์ โดยจะทำครั้งเดียวครบ หรือแบ่งทำ 2-3 ครั้งในหนึ่งวันก็ได้
  3. เมื่อรู้สึกเหนื่อยหอบในระดับที่พูดเป็นคำๆ แล้วขาดช่วง ให้ชะลอฝีเท้าลง แต่ถ้าเป็นมาก ให้หาที่นั่งพัก
  4. ควรเริ่มทำจาก 3 วันต่อสัปดาห์ และเพิ่มถึงสูงสุด 5-6 วันต่อสัปดาห์ แต่รวมแล้วก็ต้องไม่น้อยกว่า 150 นาทีต่อสัปดาห์

นอกจากเคล็ดลับในการเดินแล้วการขึ้นลงบันไดแทนลิฟท์ก็ช่วยให้มีกิจกรรมทางกายเพิ่มมากขึ้น แต่สิ่งสำคัญคือการสร้างแรงบันดาลใจให้กับตัวเอง มุ่งมั่นทำให้เคยชินในแต่ละวัน เท่านี้การเดินเพื่อส่งเสริมสุขภาพและบุคคลิกที่ดีก็ถือเป็นเรื่องที่ทำได้ไม่ยาก

แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่อง : เดินอย่างไรให้ “ผอม” และแข็งแรงไม่เป็นโรค