สรุปว่าเราควรใช้ครีมกันแดดธรรมชาติหรือครีมกันแดดเคมีกันแน่?
สรุปว่าเราควรใช้ครีมกันแดดธรรมชาติหรือครีมกันแดดเคมีกันแน่?
Should You Wear a Mineral or Chemical SPF?
เมื่อต้องอยู่ท่ามกลางแสงแดดในช่วงฤดูร้อนการบำรุงผิวอย่างเหมาะสมจึงเป็นเรื่องสำคัญ แต่คำถามคือเราควรเลือกครีมกันแดดสูตรธรรมชาติหรือเคมีดีล่ะ? ด้วยเหตุนี้เราจึงขอคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง 2 ท่านว่าเราควรเลือกครีมกันแดดสูตรไหนดี
Brit + Co : อะไรคือข้อดีข้อเสียของครีมกันแดดธรรมชาติและครีมกันแดดเคมี?
ดร.จอยซ์ : ครีมกันแดดธรรมชาติจะป้องกันทั้งรังสียูวีเอและยูวีบี มีแนวโน้มที่จะปกป้องแสงแดดโดยตรงได้นานกว่า เหมาะกับผู้ที่มีผิวบอบบางหรือแพ้ง่ายเนื่องจากทำให้เกิดอาการระคายเคืองได้น้อยกว่า นอกจากนี้ครีมกันแดดธรรมชาติก็ไม่ค่อยอุดตันรูขุมขนด้วย แต่ข้อเสียคือบางยี่ห้อมีเนื้อครีมทึบแสงซึ่งจะทำให้ผิวดูหม่นหมองโดยเฉพาะถ้าคุณเป็นคนผิวคล้ำอยู่แล้ว ขณะที่ครีมกันแดดเคมีมีเนื้อบางเบาและมักจะมีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระและสารต่อต้านริ้วรอยอื่นๆที่มีประโยชน์ ยกตัวอย่างเช่น Hydropeptide Solar Defense มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ชาเขียวและเรสเวอราทรอล ซึ่งจะช่วยป้องกันริ้วรอยและปกป้องคุณจากโรคมะเร็งผิวหนัง ส่วนข้อเสียของครีมกันแดดเคมีคือเราต้องทาก่อนออกแดดสัก 20 นาทีและหลายคนมีแนวโน้มที่จะแพ้ครีมกันแดดชนิดนี้ด้วย
B+C : สารออกฤทธิ์ในครีมกันแดดแต่ละประเภทมีอะไรบ้าง?
JI : ครีมกันแดดธรรมชาติจะมีส่วนประกอบหลัก 2 ชนิดได้แก่ สังกะสีกับไทเทเนียมออกไซด์ ซึ่งมีหน้าที่ป้องกันรังสียูวีจากแสงอาทิตย์ ส่วนครีมกันแดดเคมีจะมีส่วนผสมตั้งแต่ 2-6 ชนิดได้แก่ ออกซีเบนโซน เอโวเบนโซน ออกโตไครลีน และออกทิโนเซท
B+C : ครีมกันแดดจะดีขึ้นอยู่กับกิจกรรมที่แตกต่างกันหรือเปล่า? ยกตัวอย่างเช่นว่ายน้ำกับกิจกรรมกลางแจ้ง
JI : ใช่ค่ะ ฉันใช้ครีมกันแดดขึ้นอยู่กับสถานการณ์ต่างๆและแนะนำให้ลูกค้าทำเช่นเดียวกัน ในแต่ละวันฉันจะใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของครีมกันแดด ถ้าเป็นกิจกรรมกลางแจ้งก็จะทาครีมกันแดดธรรมชาติที่มีส่วนประกอบของสังกะสีและไทเทเนียมออกไซด์ซึ่งปกป้องรังสียูวีได้มากกว่าและสะอาดกว่าเมื่อเทียบกับครีมกันแดดเคมี ล่าสุดฉันคิดว่าเราควรทาครีมกันแดดควบคู่กับแป้งอัดแข็งเมื่อต้องออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้งเพื่อให้เครื่องสำอางติดทนนาน! ขอแนะนำ Colorscience Sunforgettable Total Protection Brush-On SPF 50 ($65) เนื่องจากเป็นแป้งอัดแข็งที่มีค่า SPF 50
B+C : ครีมกันแดดชนิดใดเหมาะกับสภาพผิวแต่ละประเภทได้ดีที่สุด?
ดร.เคร็ก : สำหรับผิวแห้งควรทามอยส์เจอไรเซอร์ก่อนครีมกันแดด ส่วนผู้ที่มีผิวมันควรหลีกเลี่ยงครีมกันแดดที่เหนียวเหนอะหนะและหนักผิวโดยเฉพาะสูตรที่มีส่วนผสมของโฮโมซาเลทเพื่อป้องกันการเกิดสิว แต่ควรมองหาครีมกันแดดเนื้อโลชั่นบางเบาหรือสูตรเหลวแทน
B+C : ในกรณีที่เป็นโรคโรซาเซียหรือโรคผื่นผิวหนังอักเสบล่ะ?
JI : โดยทั่วไปผู้ป่วยที่มีผิวบอบบางอาจใช้ครีมกันแดดธรรมชาติที่มีส่วนประกอบของสังกะสีกับไทเทเนียมออกไซด์ได้มากกว่าครีมกันแดดเคมีที่มีสารอย่างโฮโมซาเลท ออกทิโนเซท ออกโตไครลีน และออกซีเบนโซน หากเป็นไปได้ผู้ที่มีผิวบอบบางควรหลีกเลี่ยงครีมกันแดดที่มีสารกันเสียอย่างพาราเบนและพาทาเลท ดังนั้นขอแนะนำ Aveeno SPF 50($30) สำหรับผู้ที่มีผิวบอบบาง สำหรับผู้ป่วยโรคโรซาเซียฉันขอแนะนำครีมกันแดดที่มีส่วนประกอบของสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ชาเขียว สารสกัดจากเมล็ดองุ่น ไนอาซิน/ไนอะซินาไมด์ คาเฟอีน สารสกัดจากเมล็ดกาแฟ เรสเวอราทรอล และไลโคปีน ทั้งนี้ La Roche-Posay Rosaliac UV Riche ($25) ก็เป็นครีมกันแดดอีกยี่ห้อที่เหมาะกับผู้ป่วยโรคโรซาเซีย
B+C : เราควรเปลี่ยนครีมกันแดดเมื่อตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรหรือไม่?
JI : เมื่อตั้งครรภ์หรือต้องให้นมบุตรฉันจะเลือกใช้ครีมกันแดดธรรมชาติซึ่งจะทำหน้าที่ปกป้องผิวและที่สำคัญต้องไม่มีอนุภาคนาโนเนื่องจากซึมเข้าผิวง่าย ขณะที่ครีมกันแดดเคมีมีกลุ่มสารเคมีที่ขัดขวางการทำงานของเอสโตรเจนซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อทารกเพศชายในครรภ์ ดังนั้นคุณควรมองหาครีมกันแดดธรรมชาติแทน
B+C : ครีมกันแดดชนิดใดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม?
CK : ข้อมูลบางแห่งชี้ว่าครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของออกทิโนเซทกับออกซีเบนโซนอาจทำลายปะการังได้โดยการทำให้สิ่งมีชีวิตบนปะการังเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสได้ง่ายขึ้น
B+C : เราควรสังเกตอะไรบ้างบนฉลากของครีมกันแดด?
CK : หมั่นเลือกครีมกันแดดที่บนฉลากระบุว่า “Broad Spectrum” หรือกลุ่มที่มีขอบเขตการออกฤทธิ์กว้าง และจงระวังรายการที่มีค่า SPF สูงเกินกว่า 50+ เนื่องจากเป็นข้อความทางการตลาดที่สามารถทำให้เข้าใจผิดได้
Blogger : Jessica Ourisman
Source : brit.co
issue247.com
เปิดอบรม “หลักสูตรครีมกันแดด”
(UV Protection Sunscreen Product Courses)
5 สูตรยอดนิยม
จุดเด่น
“เรียนรู้เข้าใจได้ แม้ไม่มีพื้นฐาน”
“ได้ลงมือปฏิบัติทุกขั้นตอน สามารถทำได้จริง”
“ได้รับสูตรผลิตภัณฑ์ พร้อมผลิตภัณฑ์ไปใช้จริง”
“เรียนจบภายใน 1 วัน”
“แนะนำบริษัทขายวัตถุดิบ บรรจุภัณฑ์ต่างๆ”
เหมาะสำหรับ
– ผู้เริ่มต้นทำเครื่องสำอางประเภทครีมกันแดด
– ผู้ที่ไม่มีพื้นฐานทางด้านเครื่องสำอาง
– ผู้ที่สนใจอยากสร้างแบรนด์ของตัวเอง
– ผู้ประกอบการที่ต้องการปรับสูตรผลิตภัณฑ์ให้เป็นเอกลักษณ์
– ผู้ที่ต้องการเพิ่มความรู้ด้านการพัฒนาและปรับสูตรผลิตภัณฑ์ครีมกันแดด
โดยสอน 5 หลักสูตรยอดนิยม ดังนี้
- ครีมกันแดดเนื้อมูสใยไหม SPF 50/PA+++ (Mousse Sunscreen SPF 50/PA+++)
- ครีมกันแดดน้ำแตก SPF 50 (Water Drop Sunscreen Cream SPF50)
- ครีมกันแดด อิมัลชั่น SPF 50/PA+++ (Emultion Sunscreen SPF 50/PA+++
- กันแดดเนื้อบางเบา SPF 50 (Water in Silicone Sunscreen SPF50)
- ครีมกันแดด SPF30 (Sunscreen Lotion SPF 30)
สอนโดย
ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องสำอางประสบการณ์ 10 ปี
พร้อมให้คำปรึกษา **ฟรี เรื่องการสร้างแบรนด์ การทำตลาดเครื่องสำอางและการขึ้นทะเบียน อย **
สามารถแยกเรียนเป็นหลักสูตรได้*****
โปรโมชั่นพิเศษ!! ลดราคา 33 %
5 หลักสูตร
จาก 18,000 บาท ลดเหลือ 16,000 บาท
สมัครเรียน 2 ท่าน ลดเพิ่มอีก 5%
****สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติ มและสำรองที่นั่งได้ที่****
ศูนย์อบรมเครื่องสำอาง JMC
(JMC Cosmetic Training Center)
Managing Director
Tel: 083-007-8589, Line ID: careandliving
https://www.facebook.com/JMC-Cosmetic-Training-Center-113166417038006/
สถานที่อบรม :
ศูนย์อบรมเครื่องสำอาง
อาคารเลขที่ 88/22 หมู่บ้าน เนอวานา พาร์ค (Nirvana Park)
ซ. รามคำแหง 53 ถ. รามคำแหง แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง 10310
มีฝ่าย R&D
พัฒนาสูตร และผู้เชี่ยวชาญดูแล อย่างใกล้ชิด
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่อง : สรุปว่าเราควรใช้ครีมกันแดดธรรมชาติหรือครีมกันแดดเคมีกันแน่?
เรื่องนี้ไม่อนุญาติ ให้แสดงความคิดเห็น