วิตามินรวม รวมทั้งวิตามินชนิดต่างๆ กลายเป็นสิ่งคุ้นเคยสำหรับคนสมัยนี้ไปแล้ว เนื่องจากผู้คนหันมาใส่ใจในเรื่องสุขภาพกันมากขึ้น แต่บางครั้งก็อดสงสัยไม่ได้ว่า วิตามินที่เรากินๆกันอยู่นั้น มันเป็นสิ่งจำเป็นต่อร่างกายจริงๆหรือเปล่า?

เราจึงไปรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับวิตามินรวมมาบอกคุณแล้ว ลองอ่านดูนะ ว่าจริงๆ แล้ววิตามินรวมนั้นเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับคุณหรือเปล่า?

วิตามินรวมคืออะไร 

วิตามินรวมคืออาหารเสริมชนิดเม็ด ที่ประกอบไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ ที่จำเป็นต่อร่างกาย ซึ่งก็รวมถึงแคลเซี่ยม แม็กเนเซี่ยม วิตามินดี วิตามินบี วิตามินเอ วิตามินเค โปตัสเซี่ยม ไอโอดีน เซเลเนี่ยม โบเรต ซิงค์ แมงกานิส โมลิบดีนัม เบต้า-แคโรทีน และธาตุเหล็ก ซึ่งวิตามินรวมมีอยู่มากมายหลายชนิดและมีปริมาณในการรับประทานแตกต่างกันไป อย่างเช่น วิตามินรวมสำหรับเด็ก ผู้ชาย ผู้หญิง สตรีมีครรภ์ หรือผู้สูงอายุ และอาจมีชนิดที่เพิ่มวิตามินและเกลือแร่บางอย่างเข้าไป สำหรับกลุ่มคนที่มีความต้องการแตกต่างกันไป

วิตามินรวมดียังไง 

ถึงแม้เราจะเห็นตามแผ่นพับหรือโฆษณาตามสื่อต่างๆ ว่าวิตามินรวมดีอย่างโน้นอย่างนี้ แต่วิตามินรวมไม่ใช่ยามหัศจรรย์ที่จะช่วยเพิ่มพลังให้คุณกลายเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ขึ้นมาในบัดดลหรอกนะ สิ่งที่วิตามินรวมทำได้ก็คือ ช่วยทดแทนวิตามินในส่วนที่ขาด หรือไม่มีอยู่ในอาหารที่คุณกินเข้าไป ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณทานอาหารสำเร็จรูปบ่อยๆ ก็มีความเป็นไปได้อย่างมาก ที่ร่างกายจะขาดวิตามินและเกลือแร่บางชนิด ซึ่งวิตามินรวมจะช่วยทำหน้าที่ตรงนี้ให้คุณได้ นอกจากนี้นักโภชนาการยังบอกด้วยว่า วิตามินรวมยังช่วยทดแทนในส่วนที่ขาด เวลาที่เรากินอาหารที่ไม่ผ่านการแปรรูปน้อยเกินควร วิตามินรวมจึงทำหน้าที่เหมือนนักโภชนาการประจำตัว ที่ช่วยทำให้คุณมั่นใจได้ว่าร่างกายจะได้รับวิตามินและเกลือแร่ที่จำเป็นอยู่เสมอ

วิตามินรวมเหมาะกับใคร 

ผลการศึกษาวิจัยหลายชิ้นบ่งบอกว่า วิตามินรวมอาจจะไม่ได้ช่วยบำรุงสุขภาพให้ใครต่อใครอย่างที่คนส่วนใหญ่คิดกัน เนื่องจากวิตามินรวมมีประโยชน์เฉพาะกับผู้คนบางกลุ่มเท่านั้น อย่างเช่น คนที่มักทานแต่อาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ คนที่มีปัญหาในเรื่องการย่อยอาหาร (เช่น คนที่ได้รับการผ่าตัดเพื่อลดขนาดกระเพาะอาหาร หรือผู้ที่เป็นโรคทางเดินอาหารอักเสบ) และผู้สูงอายุที่มีแนวโน้มจะขาดวิตามินและเกลือแร่บางอย่าง 

หน่วยงานด้านสาธารณสุขอย่างสถาบันสุขภาพแห่งชาติในอเมริกา แนะนำให้ผู้หญิงที่อยากจะตั้งครรภ์รับประทานกรดโฟลิคขนาด 400 ไมโครกรัมทุกวัน (ไม่ว่าจะเป็นอาหารจริงๆหรืออาหารเสริมก็ตาม) เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดความพิการตั้งแต่กำเนิด ที่เหลือนอกนั้น…ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่กำลังวางแผนจะตั้งครรภ์ ตั้งครรภ์แล้ว หรือผู้ที่ขาดสารอาหารบางอย่าง ก็อาจไม่จำเป็นต้องกินวิตามินรวม 

ซึ่งการขาดสารอาหารในผู้คนส่วนใหญ่นั้น มักจะขาดธาตุเหล็ก แคลเซี่ยม วิตามินบี 12 และวิตามินดี ซึ่งถ้าใครขาดสารอาหารเหล่านี้ก็จะมีอาการเหนื่อยอ่อน ซึ่งเป็นอาการที่ไม่ชัดเจน ฉะนั้น ถ้าใครมีปัญหาเรื่องความอ่อนเพลีย ก็ควรขอให้หมอตรวจเลือดดูว่าเป็นเพราะขาดสารอาหารพวกนี้จริงๆ หรือเปล่า 

ควรมองหาอะไรในวิตามินรวม 

ถ้าคุณอยู่ในกลุ่มที่ต้องกินวิตามินรวมเป็นอาหารเสริม ก็ควรเลือกซื้อวิตามินรวมจากแบรนด์ที่ไว้ใจได้ เพื่อที่จะแน่ใจได้ว่าวิตามินรวมขวดนั้นผลิตขึ้นตามข้อกำหนดขององค์การอาหารและยาจริงๆ นอกจากนี้ก็ควรหลีกเลี่ยงวิตามินรวมแบบที่เป็นเยลลี่สำหรับเคี้ยวหนึบหนับ เนื่องจากวิตามินรวมชนิดนี้มักมีส่วนผสมของน้ำตาล ซึ่งอาจเป็นภัยต่อสุขภาพได้ 

กินวิตามินรวมมากไปจะเป็นอันตรายมั้ย 

วิตามินรวมเป็นวิตามินที่ไม่มีอันตราย แต่มีสิทธิ์ที่จะกินมากเกินไปได้ โดยทั่วไปแล้ว ถ้าเป็นวิตามินที่ละลายในน้ำมัน อย่างเช่น วิตามินเอ ดี อี หรือเค อาจเกิดการสะสมในร่างกาย และกลายสภาพเป็นสารพิษที่อาจเป็นภัยร้ายแรงต่อร่างกายได้ ส่วนวิตามินที่ละลายในน้ำ อย่างเช่น กรดโฟลิค วิตามินซี และวิตามินบี 12 ถ้าเรากินมากเกินไป ร่างกายก็จะระบายออกมาทางปัสสาวะ ฉะนั้น ถ้าใครลืมว่าวันนี้กินวิตามินรวมเข้าไปหรือยัง แล้วกินเข้าไปสองรอบในหนึ่งวัน ก็ไม่น่าจะมีอันตรายอะไร แค่อย่าเผลอทำอย่างนั้นเป็นประจำก็แล้วกัน และก่อนที่คุณจะเริ่มกินวิตามินรวมเป็นอาหารเสริม ก็ควรปรึกษากับหมอประจำตัวซะก่อนนะ เพราะวิตามินบางชนิดอาจมีปฎิกิริยากับยารักษาโรคบางอย่างได้ จึงควรต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ 

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค และการรักษาโรคแต่อย่างใด