รู้จัก! ก๊อต-จิรายุ ผู้ที่มารับบท หลวงสรศักดิ์

วันที่ 26 มีนาคม 2018เปิดอ่าน 526 views

รู้จัก! ก๊อต-จิรายุ ผู้ที่มารับบท หลวงสรศักดิ์

กระแสเปี้ยงไม่ตกจริงๆ สำหรับละครอิงประวัติศาสตร์อย่าง บุพเพสันนิวาส ที่ไม่ว่าจะออนแอร์ในวันไหนก็มีเรื่องน่ารู้ น่าสนใจ มาให้แฟนๆ ละครได้ติดตามกันอยู่ตลอด และหนึ่งในนั้นก็รวมถึงเรื่องของบุคคลสำคัญในทางประวัติศาสตร์ชาติไทยด้วย ซึ่งบุคคลสำคัญที่เราจะได้รู้จักกันในบทความนี้ก็คือ หลวงสรศักดิ์ หรือออกหลวงสุรศักดิ์ พระราชโอรสลับในสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ซึ่งรับบทโดย ก๊อต-จิรายุ ตันตระกูล ที่ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งตัวละครสำคัญในละครเรื่องนี้ด้วย

ก๊อต-จิรายุ หรือ หลวงสรศักดิ์

และจะพาทุกคนมารู้จักกับพระราชประวัติของหลวงสรศักดิ์ ที่ในเวลาต่อมาได้ขึ้นครองราชย์เป็น สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 พร้อมทั้งยังมีประวัติของหนุ่มก๊อต-จิรายุ ผู้ที่มารับบทเป็นหลวงสรศักดิ์ ให้สาวๆ ได้รู้กันด้วย (แอบบอกนิดนึงว่าหนุ่มคนนี้เขาไม่ธรรมดาจริงๆ)

ก๊อต-จิรายุ ผู้ที่มารับบทเป็นหลวงสรศักดิ์

ก๊อต-จิรายุ ตันตระกูล เกิดเมื่อวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ.2532 ทางด้านการศึกษาหนุ่มก๊อตสำเร็จการศึกษาในระดับชั้นมัธยมจากจากโรงเรียนวัดราชบพิธ ก่อนที่จะเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา ที่คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ แต่ในเวลาต่อมาหนุ่มก๊อตได้รับทุนความสามารถพิเศษด้านศิลปิน จากสาขาวิชาการจัดการธุรกิจค้าปลีก คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยรังสิต จึงได้ย้ายมาเรียนต่อทางด้านนี้แทน

งานอดิเรกที่หนุ่มก๊อตชอบทำก็คือ ยิงปืน ฟังเพลง วาดรูป และเคยเผยว่าชอบสร้างงานประดิษฐ์ นอกจากนี้ยังชอบเล่นกีฬาและออกกำลังกายอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น ว่ายน้ำ มวย ฟันดาบ และเปตอง จึงไม่แปลกเลยที่เราได้จะเห็นหุ่นและกล้ามสวยๆ ของหนุ่มคนนี้กันอยู่บ่อยๆ

เส้นทางในวงการบันเทิง

หนุ่มก๊อตเริ่มเข้าสู้วงการบันเทิงจากการเข้าร่วมการประกวดในโครงการ The Idol Project 1 เพื่อค้นหาพระเอกและนางเอกของช่อง 3 ในปี 2552 ซึ่งเขาก็สามารถรางวัลชนะเลิศจากการประกวดในครั้งนี้มาได้สำเร็จ จึงทำให้เขาเริ่มที่จะมีผลงานด้านละครให้เราได้ชมกัน โดยละครเรื่องแรกของหนุ่มก๊อตก็คือ คุณนายสามสลึง รับบทเป็น เชตวัน และในปี 2553 เขาก็มีละครให้เราได้ชมกันถึง 2 เรื่อง ได้แก่ ดวงใจอัคนี รับบทเป็น วิรัช และคุณชายติดหรู คุณหนูติดดิน รับบทเป็น บูชิต

แต่ผลงานละครที่ทำให้เขาเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นก็คือ พิมาลา ในบทของ นันท์, แผนร้ายพ่ายรัก ในบทของ กนธี, คุณชายพุฒิภัทร ในบทของ คุณหมอยศวิน และยังรวมไปถึงเรื่องชาติพยัคฆ์ ในบทของ รื่น อีกด้วย นอกจากนี้หนุ่มก๊อตยังมีละครอีกหลายเรื่องให้แฟนๆ ได้ติดตามกันอีกหลายเรื่องเลย ไม่ว่าจะเป็น ทรายสีเพลิง, บางระจัน, บุพเพสันนิวาส และละครอีก 3 เรื่องที่กำลังจะออนแอร์ให้แฟนๆ ได้ชมกันเร็วๆ นี้ คมแฝก, หนึ่งด้าวฟ้าเดียว และเฮฮาเมียนาวี

และความดังของหนุ่มคนนี้ยังไม่หมดเท่านี้ เพราะเขายังได้มีโอกาสร่วมแสดงภาพยนตร์ในระดับอินเตอร์อีกด้วยกับเรื่อง “Gold” ประกบกับนักแสดงรางวัลออสการ์ชื่อดังอย่าง แมทธิว แม็คคอนาเฮย์

ด้านชีวิตส่วนตัว

หนุ่มก๊อตกำลังคบหาดูใจอยู่กับนักแสดงสาวสวย โบว์-เบญจวรรณ อาร์ดเนอร์ (คบกันมาประมาณ 4 ปีแล้ว เป็นอีกหนึ่งที่น่ารักสุดๆ ไปเลย)

หลวงสรศักดิ์ คือใคร มีความสำคัญอย่างไร

หลวงสรศักดิ์ หรือมีชื่อเดิมว่า “เดื่อ” เนื่องจากประสูติใต้ต้นมะเดื่อ ซึ่งภายหลังที่ได้ขึ้นครองราชย์มีพระนามว่า สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 29 แห่งอาณาจักรอยุธยา และเป็นพระองค์ที่ 2 แห่งราชวงศ์บ้านพลูหลวง ราชวงศ์สุดท้ายของอาณาจักรอยุธยา ทรงครองราชย์ พ.ศ. 2246-พ.ศ. 2251 แต่ผู้คนในสมัยนั้นจะเรียกขานพระองค์ว่า “พระเจ้าเสือ” เพราะด้วยพระองค์ทรงมีพระอุปนิสัยโหดร้ายดังเสือ พระองค์ทรงมีพระปรีชาด้านมวยไทย โดยทรงเป็นผู้คิดท่าแม่ไม้มวยไทย ซึ่งมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ปรากฏชัดเจน และได้มีการถ่ายทอดเป็นตำราให้ชาวไทยรุ่นหลังได้เรียนรู้ฝึกฝนจนถึงปัจจุบัน

โดยสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ได้ระบุไว้ในหนังสือศิลปะมวยไทย ถึงพระองค์ในการปลอมพระองค์เป็นชาวบ้านมาชกมวยกับนักมวยฝีมือดีจากเมืองวิเศษชัยชาญ และสามารถชนะนักมวยเอกได้ถึง 3 คน ซึ่งได้แก่ นายกลาง หมัดตาย, นายใหญ่ หมัดเหล็ก และนายเล็ก หมัดหนัก และในปัจจุบันกระทรวงวัฒนธรรมได้กำหนดให้วันที่ 6 กุมภาพันธ์ ของทุกปี ซึ่งตรงกับวันที่พระองค์ได้ขึ้นครองราชย์ตามหลักฐานในประวัติศาสตร์เป็นวันมวยไทย

พระราชประวัติ สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8

สำหรับ พระชาติกำเนิดของหลวงสรศักดิ์ หรือพระเจ้าเสือนั้นยังไม่เป็นที่แน่ชัด โดยได้มีการสันนิษฐานกันว่า พระองค์ทรงเป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระนารายณ์มหาราช กับพระสนมพระองค์หนึ่ง ปรากฏในพระราชพงศาวดารฯ ฉบับพระพนรัตน์ (แก้ว) ว่า นางเป็นพระราชธิดาพระเจ้าเชียงใหม่ โดยคำให้การขุนหลวงหาวัดได้ออกพระนามว่า พระราชชายาเทวีหรือเจ้าจอมสมบุญ ส่วนในคำให้การชาวกรุงเก่าเรียกว่า นางกุสาวดี

แต่ภายหลัง สมเด็จพระนารายณ์มหาราช พระราชทานให้พระเพทราชาเลี้ยงดู (เมื่อครั้งที่ดำรงตำแหน่งเจ้ากรมช้าง) ต่อมาได้เข้ารับราชการโดยได้ถวายตัวเป็นมหาดเล็ก ซึ่งเป็นที่โปรดปรานของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชเป็นอย่างมาก และหลังจากนั้นก็ได้ถูกแต่งตั้งให้เป็นหลวงสรศักดิ์ พร้องทั้งนี้หลวงสรศักดิ์ยังช่วยพระเพทราชาขึ้นมายึดอำนาจจากสมเด็จพระนารายณ์ กระทั่งสมเด็จพระเพทราชาสวรรคต พระองค์ในตำแหน่งพระมหาอุปราช รมพระราชวังบวรสถานมงคล จึงได้ขึ้นครองราชสมบัติ มีพระนามว่า สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 พระองค์ทรงราชาภิเษก พ.ศ. 2246 มีพระราชโอรส 2 พระองค์ คือ เจ้าฟ้าเพชร (สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ) และเจ้าฟ้าพร (สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ)

สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 พระมหากษัตริย์ไทย

ในการดำเนินการบริหารบ้านเมืองพระองค์ทรงมีความเด็ดขาดในการมีรับสั่งให้ผู้ที่ปฏิบัติงานใดต้องสำเร็จผลเป็นอย่างดี หากบกพร่องพระองค์จะมีรับสั่งให้ลงโทษ ไม่เฉพาะข้าราชบริพารเท่านั้น แม้พระราชโอรสทั้งสองก็เช่นกัน อย่างเช่น ในการเสด็จไปคล้องช้างที่เมืองนครสวรรค์ มีรับสั่งให้เจ้าฟ้าเพชรและเจ้าฟ้าพรตัดถนนข้ามบึงหูกวาง โดยถมบึงส่วนหนึ่งให้เสร็จภายในหนึ่งคืน พระราชโอรสดำเนินงานเสร็จตามกำหนด แต่เมื่อเสด็จพระราชดำเนิน ช้างทรงตกหลุม ทรงลงพระราชอาญาเจ้าฟ้าเพชร แต่ภายหลังก็ได้รับพระราชทานอภัยโทษ

พระราชกรณียกิจ

ด้านศาสนา

1. ทรงปฏิสังขรณ์มณฑปสวมรอยพระพุทธบาทสระบุรี สร้างมาแต่ครั้งสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม ซึ่งทำเป็นยอดเดียวชำรุด โปรดฯ ให้สร้างใหม่เป็น 5 ยอด รวมทั้งปฏิสังขรณ์ทั่วทั้งอาราม

2. ปี พ.ศ. 2249 เกิดอัสนีบาตต้องยอดมณฑปพระมงคลบพิตร เครื่องบนมณฑป ทรุดโทรมพังลงมาต้องพระศอพระมงคลบพิตรหัก โปรดฯ ให้รื้อเครื่องบนออก ก่อสร้างใหม่แปลงเป็นมหาวิหาร

3. เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกที่เสด็จพระราชดำเนินไปนมัสการพระพุทธฉาย และสันนิษฐานว่าค้นพบในสมัยพระองค์

4. พระราชกรณียกิจที่สำคัญอันเกี่ยวเนื่องเมืองพิจิตร เพื่อเป็นการรำลึกถึงชาติภูมิของพระองค์สมเด็จพระเจ้าเสือได้โปรดให้สร้างวัดโพธิ์ประทับช้างขึ้นที่เมืองพิจิตร โดยสร้างพระอุโบสถ พระวิหาร พระมหาเจดีย์ ศาลาการเปรียญ และกุฏิสงฆ์ มีอาณาบริเวณวัดกว้างขวางใหญ่โต ใช้เวลาสร้าง 2 ปี จึงสำเร็จ เสด็จพระราชดำเนินมาทำการฉลองด้วยพระองค์เอง มีการฉลองสามวันสามคืน มีมหรสพครึกครื้น และมีผู้คนมากมายมาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทและดูมหรสพ ฉลองเสร็จแล้วทรงพระราชอุทิศถวายเลขข้าพระไว้สำหรับอุปฐากพระอารามถึง 200 ครัวเรือน นับว่าครั้งนั้นวัดโพธิ์ประทับช้างเป็นวัดที่เด่นที่สุดในเมืองพิจิตร