แนะนำวิธีการเลือกซื้อถุงยางแบบรวบรัดเข้าใจง่าย อ่านปุ๊ปชีวิตสบายขึ้นอีกเยอะ

ถุงยางอนามัย เป็นเครื่องมือที่ใช้คุมกำเนิดได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงกว่าวิธีอื่น ๆ เมื่อใช้อย่างถูกวิธี สามารถช่วยป้องกันการตั้งครรภ์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ชนิดต่างๆ ได้อย่างดี ถุงยางจึงเป็นตัวเลือกที่นิยมที่สุดในบรรดาวิธีการป้องกันของผู้ชายอย่างเราๆ เนื่องจากหาซื้อง่ายแถมราคามีตั้งแต่ถูกไปถึงแพงตามคุณสมบัติของมัน แต่ ณ.เวลานี้เราเชื่อว่าผู้ชายหลายๆคนในปัจจุบันอาจจะยังเลือกถุงยางที่มาใช้ให้เหมาะสมกันตัวเองไม่เป็นด้วยซ้ำ เราจึงมีวิธีการเลือกถุงยางให้เหมาะสมกับผู้ชายอย่างเราๆง่ายๆ เพียง 3 ขั้นตอนเท่านั้นเอง!!!

1. ขนาดไซต์ของตนเองและถุงยาง

อย่างแรกนั้นเริ่มจากเราต้องรู้ก่อนว่าขนาดเส้นรอบวงของน้องชายขณะแข็งตัวเต็มที่นั้นขนาดเท่าไรโดยจะทราบได้โดยวิธีการ “วัด” แล้วนำไปหารด้วย 2 ก็จะได้ขนาดของน้องชายสำหรับนำไปเลือกซื้อถุงยาง ตัวอย่างเช่น เส้นรอบวง 10.5 ซม. / 2 = 5.2 ซม. ให้เลือกถุงยางขนาด 52 มม. เป็นต้นโดยถุงยางอนามัยที่วางขายในบ้านเราส่วนใหญ่จะเป็นไซส์ 49 , 52 และ 54 มิลลิเมตร ซึ่งสองแบบแรกเป็นไซส์มาตรฐานของหนุ่มไทย ส่วนไซส์ 54 มิลลิเมตรนั้นสำหรับชาวต่างชาติ หรือถ้าหากใครที่ขนาดมากกว่านี้ก็จะเป็นขนาด 56 มม. ซึ่งก็อาจจะต้องใช้ถุงยางอนามันของต่างประเทศโซนยุโรป ทั้งนี้วิธีการวัดนี้เป็นการวัดโดยประมาณ เพราะไซส์ของถุงยางอนามัยนั้นวันจากหน้ากว้างของถุงยางขณะที่แบนราบ ที่แน่นอนที่สุดเพื่อความมั่นใจคือ ลองใส่ดูหาขนาดที่เหมาะกับเราแล้วใช้ขนาดนั้นเป็นมาตรฐาน เมื่อใส่ถุงยางแล้วต้องไม่รู้สึกรัดมากเกินไปเพราะอาจฉีกขาดหรืออาจจะฮ้อเลือดได้ แล้วถ้าถุงยางอนามัยหลวมเกินไปก็อาจเลื่อนหลุด ซึ่งการเลือกไซส์ที่เหมาะกับตัวเองจะช่วยให้เรามั่นใจได้ว่าระหว่างเรามีเพศสัมพันธ์อยู่นั้นถุงยางกับน้องชายเราจะไม่พลัดพรากจากกันอย่างแน่นอน!!

2. น้องชายเหมาะกับวัสดุที่ใช้ทำถุงยางแบบไหน

โดยในข้อนี้จะไม่มีวิธีบอกว่าแต่ละคนนั้นเหมาะสำหรับถุงยางที่ทำมาวัสดุชนิดไหน เนื่องจากแต่ละคนนั้นต้องลองเอง หากเมื่อสวมใส่เข้าไปแล้วน้องชายเกิดมีอาการบวม คัน แสบหรืออาการประมาณนี้กับน้องชายนั้น คือเราแพ้วัสดุชนิดนั้นที่นำมาใช้ผลิตถุงยาง โดยวัสดุหลัก ๆ ที่ปัจจุบันนิยมนำมาใช้ในการผลิตถุงยางอนามัยมีอยู่ 2 ชนิดด้วยกัน ได้แก่

2.1 ลาเท็กซ์ (น้ำยางธรรมชาติ)

เป็นวัสดุที่นำมาใช้ผลิตเป็นถุงยางอนามัยมากที่สุด เพราะมีความบางและความยืดหยุ่นมากกว่าแบบแรก สวมใส่แล้วกระชับ ไม่ลื่นหลุดง่ายระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ ช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้หากผู้ชายคนไหนที่ใช้ถุงยางลาเท็กซ์แล้วรู้สึกคันหรือมีผื่นขึ้นที่น้องชาย ควรเข้าพบแพทย์โดยเร็ว เนื่องจากอาจมีอาการแพ้ลาเท็กซ์ก็เป็นได้!!

2.2 พลาสติก

ออกแบบมาเพื่อคนแพ้ลาเท็กซ์ จึงมีคุณสมบัติด้านการใช้งานที่คล้ายกันมาก แต่ทางองค์การอนามัยโลกรายงานว่าถุงยางพลาสติกขาดง่ายกว่าแบบลาเท็กซ์

3. ชอบถุงยางแบบไหน

เราต้องรู้ว่าเรามีความชอบแบบไหน เพราะถุงยางนั้นมีให้เราเลือกหลายแบบหลายสไตล์มาก โดยเฉพาะถ้าเป็นถุงยางจากต่างประเทศ ไม่ว่าจะเรื่องของผิวของถุงยางเพราะมีให้เลือกหลากหลายแบบ เช่น ผิวเรียบ ผิวขรุขระ ผิวมีปุ่ม และผิวมีวงแหวน รวมถึงแบบผสมสารหล่อลื่น เป็นต้น หรือจะเรื่องกลิ่นเพราะในปัจจุบันนั้นแต่ละยี่ห้อขยันคิดค้นกลิ่นต่างๆออกมาจำหน่ายเยอะแยะไปหมดไม่ว่าจะกลิ่นสตอเบอร์รี่ ช็อคโกแลตพวกนี้จะเป็นกลิ่นมาตรฐานในปัจจุบันอยู่แล้ว แต่ที่มาใหม่และแปลกสุดๆคือกลิ่นทุเรียนนั้นเอง และสุดท้ายคือความหนาของถุงยางโดยบางคนนั้นก็ชอบถุงยางแบบบางเพราะทำให้รู้สึกเหมือนมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ใส่อะไรเลย โดยความหนาความหนาที่ผู้ชายเราๆที่ชอบถุงยางชนิดแบบบางนั้นมีขนาดความหนาเพียง 0.01 มิลลิเมตรเท่านั้นเอง!!