ใครๆ ก็พูดว่าการออกกำลังกายเป็นเรื่องดีสำหรับคนทุกเพศทุกวัย แต่ผลการวิจัยในสหรัฐฯ เมื่อไม่นานนี้มุ่งเน้นผลลัพธ์ของการออกกำลังกายโดยเฉพาะต่อกลุ่มคนในช่วงอายุหนึ่ง

ผลการวิจัยของมหาวิทยาลัยมิสซิสซิปปีและมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียในสหรัฐเฝ้าติดตามการเปลี่ยนแปลงของเทโลเมียร์ (telomere) ในผู้ใหญ่ 6,500 คนทั่วประเทศ พบว่าการออกกำลังกายในช่วงอายุระหว่าง 40-65 ปี มีความสำคัญมาก เพราะนอกจากช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกัน “อ่อนเยาว์” และยังช่วยป้องกันไม่ให้เทโลเมียร์หดสั้นลง

ขณะที่การศึกษาของสถาบันมะเร็งแห่งชาติในรัฐแมรีแลนด์ก็ชี้ว่าคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำวันละชั่วโมงเศษๆ มีแนวโน้มเสียชีวิตก่อนวัยอันควรน้อยกว่าคนที่ไม่ออกกำลังกายถึง 39%

Darshi Shah นักโภชนาการบำบัด อธิบายเกี่ยวกับเทโลเมียร์หรือกระเปาะหุ้มส่วนปลายสายดีเอ็นเอที่อยู่ตรงปลายสุดของโครโมโซมซึ่งเป็นส่วนที่เชื่อมโยงกับอายุขัยว่า เทโลเมียร์สั้นลงเรื่อยๆ ตามอายุที่เพิ่มขึ้น ยิ่งสั้นลงร่างกายก็ล้มป่วยได้ง่ายขึ้น และหมายถึงอายุขัยยิ่งสั้นลงด้วย จึงไม่แปลกนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกจะพยายามหาทางทำให้เทโลเมียร์ยาวขึ้น

พญ. Andrea Klemes จากศูนย์การแพทย์ในฟลอริดาบอกว่า การออกกำลังกายในวัยผู้ใหญ่ช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคเรื้อรัง ลดอาการบาดเจ็บ และช่วยรักษาระบบการทำงานในร่างกายได้ การมีสุขภาพแข็งแรงในวัย 40 ขึ้นไปจึงเป็นองค์ประกอบสำคัญเพื่อการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ แต่ถึงอย่างนั้นคุณหมอสรุปว่าการออกกำลังกายมีประโยชน์กับคนทุกวัย และนอกจากออกกำลังกายแล้ว การทำสมาธิและการรับประทานอาหารก็มีส่วนชะลอการหดสั้นลงของเทโลเมียร์ได้