หอมใหญ่เป็นหนึ่งในผักที่คนญี่ปุ่นนิยมใช้เป็นส่วนประกอบของอาหารเพื่อให้อาหารมีรสชาติที่หวานตามธรรมชาติ วันนี้จะขอมาเล่าสาระดีๆ จากหอมใหญ่ให้ฟังนะคะ

หอมใหญ่สีม่วงมีฤทธิ์ต้านมะเร็งลำไส้

จากการวิจัยพบว่าหอมใหญ่สีม่วงอุดมไปด้วยสารเควอซิทิน (quercetin) ซึ่งเป็นสารฟลาโวนอยด์ชนิดหนึ่งที่มีฤทธิ์ในการทำลายและส่งเสริมให้เกิดสภาวะที่ไม่เหมาะสมในการเจริญของเซลล์มะเร็งลำไส้ใหญ่ นอกจากสารเควอซิทินแล้วหอมใหญ่สีม่วงยังอุดมไปด้วยแอนโทไซยานิน ซึ่งเป็นรงควัตถุที่อยู่ในผักและผลไม้ที่มีสีม่วงและแดงเป็นส่วนใหญ่ สารแอนโทไซยานินจะไปช่วยเสริมคุณสมบัติการต้านและทำลายเซลล์มะเร็งของสารเควอซิทิน

วิธีง่ายๆในการป้องกันและรักษามะเร็งลำไส้ใหญ่คือการหมั่นรับประทานหอมใหญ่สีม่วงทั้งในรูปแบบสดหรือนำมาปรุงเป็นอาหารค่ะ

หอมใหญ่ที่ไม่สร้างน้ำตาให้คนอีกแล้ว

ปัญหาใหญ่ของการนำหอมใหญ่มาประกอบอาหารคือ ผู้หั่นมักจะน้ำตาไหลซึ่งมีสาเหตุมาจากการปล่อยสารที่ไปทำปฏิกิริยากับเอนไซม์ในหอม เกิดเป็นก๊าซชนิดหนึ่งเรียกว่า Syn-propanethial-S-Oxide ซึ่งเป็นก๊าซที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองของดวงตาและกระตุ้นให้ต่อมน้ำตาสร้างน้ำตาออกมา

ได้มีกลุ่มนักวิจัยที่ใช้เวลาประมาณ 20 ปี ดัดแปลงพันธุ์หอมโดยการกำจัดเอนไซม์ที่เป็นตัวเร่งให้เกิดก๊าซ Syn-propanethial-S-Oxide ในหอมออกไป ทำให้ได้หอมใหญ่ที่ไม่ทำให้ผู้หั่นต้องน้ำตาไหลอีกแล้ว หอมดังกล่าวถูกเรียกว่า สไมล์บอล (Smile ball หรือ スマイルボール) แม้ว่าจะคงคุณค่าทางอาหารเหมือนเดิม แต่หอมสไมล์บอลนั้นมีรสชาติที่แตกต่างจากหอมดั้งเดิมคือไม่มีรสเผ็ดและมีความหวานคล้ายผลไม้ จึงน่าจะเหมาะกับคนที่ไม่ชอบกลิ่นหอมใหญ่ แต่สำหรับคนที่ยังชอบหอมที่มีรสเผ็ดผู้เขียนขอแนะนำให้ใช้หอมใหญ่ดั้งเดิมที่มีราคาถูกกว่าและหาซื้อได้ง่ายกว่า เพียงแค่นำหอมไปใส่ตู้เย็นก่อนนำมาปอกและหั่นก็จะช่วยบรรเทาอาการน้ำตาไหลในขณะหั่นหอมได้ค่ะ

หลังจากย้ายมาอยู่ญี่ปุ่นหอมใหญ่เป็นผักคู่ครัวที่ขาดไม่ได้เลยในการปรุงเมนูอร่อยตามแบบคนญี่ปุ่น ครั้นเมื่อได้รู้ถึงประโยชน์ของหอมใหญ่สีม่วงแล้ว บ้านของผู้เขียนก็มีผักคู่ครัวเพิ่มขึ้น เพื่อสุขภาพที่ดีลองมองหาหอมใหญ่สีม่วงมารับประทานเป็นประจำดูนะคะ