จังหวัดเชียงใหม่ เป็นหนึ่งจังหวัดทางภาคเหนือที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายดึงดูุดใจนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติให้ไปเยือน และยังมีความหลากหลายทาง วัฒนธรรม แหล่งท่องเที่ยว อาหารการกิน พร้อม ครบ จบในที่เดียว จะขึ้นดอยไปชมหมอกในตอนเช้า แวะกินแหนมเนืองตอนเที่ยง แล้วจบที่สถานบันเทิงตอนกลางคืนก็สามารถทำได้ แต่ในวันนี้เราจะพาเพื่อนๆไปท่องเที่ยวแบบธรรมชาติสุดฟิน โดยการขึ้น “ดอยหลวงเชียงดาว” ฟินแสงแรกของพระอาทิตย์อบอุ่นที่สาดส่องลงบนไอหมอกยามเช้าอันหนาวเย็น เหมาะมากสำหรับคู่รักที่ต้องการเพิ่มความโรแมนติกในชีวิตคู่

ที่ตั้งของ ดอยหลวงเชียงดาว นั้นอยู่ภายในเขตอุทยานแห่งชาติเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ โดยเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปได้เพียง 5 เดือน ต่อปีเท่านั้น โดยจะอยู่ในช่วงวันที่ 1 พ.ย. ถึง 31 มี.ค. ของทุกปี ในช่วงเวลาที่ปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวชมนั้น จะเป็นการฟื้นฟูต้นไม้ใบหญ้าและสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติต่างๆให้คงความสมบูรณ์ และไม่เป็นการรบกวนธรรมาชาติจากฝีมือมนุษย์จนเกินไป

“ดอยหลวงเชียงดาว” เป็นคำที่เพี้ยนมาจากคำว่า “ดอยหลวงเพียงดาว” โดยคนสมัยก่อนจะเรียกที่นี้ว่า “ดอยอ่างสลุง” เนื่องจากมีเรื่องเล่าสืบต่อกันมาว่า สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จมาพร้อม พระอรหันต์ 8 องค์ทรงลงสรงน้ำในสลุงทองคำหรือบริเวณอ่างสลุงนั้นเอง และสาเหตุที่ต้องเรียกขานว่า ดอยหลวง (“ หลวง ” แปลความหมายว่า “ ใหญ่ ” ) นั้นเป็นเพราะ ที่นี้เป็นดอยที่สูงติดอันดับ 3 ของประเทศไทย มีความสูงถึง 2,275 เมตร จากระดับน้ำทะเล จึงมีขนาดสูงและใหญ่มากนั้นเอง

โดยดอยหลวงเชียงดาวนี้ มีจุดชมวิวที่นิยมอยู่ 2 แห่งคือ “ยอดดอยกิ่วลม” ซึ่งเหมาะกับจุดประสงค์ของการแบกเป้มาท่องเที่ยวดอยนั้นคือการลืมตามาชมแสงอาทิตย์แรกของวันที่สาดส่องลงมากระทบยอดหญ้าและทะเลหมอกที่ลอยวนอยู่ตรงหน้า พร้อมกับจิบกาแฟร้อนซักแก้วเพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกายได้คลายหนาว บอกเลยว่าจะต้องฟินมากแน่ๆที่ได้อยู่ท่ามกลางหมอกสีขาวนุ่มละมุนที่รายล้อมรอบกายเรา ส่วนอีกหนึ่งจุดชมวิวคือ “ยอดดอยสูงสุด”ของดอยหลวงเชียงดาว ซึ่งเหมาะกับการเดินทางไปนั่งพักนิ่งๆ มองตะวันทอแสงสีส้มเข้มเตรียมจะลับขอบฟ้าไป เป็นสัญญาณของการหมดเวลาไปอีกวัน ได้นั่งคิดนั่งทบทวนถึงเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมา เพื่อพร้อมรับวันใหม่ที่กำลังมาถึงนั้นเอง

สำหรับการพักค้างคืนบนดอยหลวง เราสามารถเช่า เต้นท์ ที่ปูรองนอน เสื่อ รวมถึงบริการลูกหาบ ที่คอยช่วยในการขนของของเราขึ้นไปบนลานกลางเต้นท์ ทำให้เราไม่เหนื่อยจนเกินไปและสามารถเก็บพลังไว้ในวันรุ่งขึ้นเพื่อรับบรรยากาศอันแสนสดใสในยามเช้า และแน่นอนบนดอยหลวงเชียงดาวแห่งนี้ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ และไม่มีห้องน้ำแบบเป็นกิจลักษณะ จะมีแค่เพียง ส้วมหลุม ที่มีลักษณะเป็นหลุมลึก มีไม้กระดานพาดไว้ขนาบข้างให้เราเหยียบ ล้อมด้วยผ้าใบสีดำ บอกเลยว่าซักครั้งในชีวิตที่ต้องไปลองเปิดประสบการณ์เช่นนี้จะจำไม่รู้ลืมเลยทีเดียว

หลังจากดื่มด่ำกับบรรยากาศอันบริสุทธิ์ของธรรมชาติเรียบร้อย ก็ถึงเวลาที่ต้องโบกมือบ๊ายบาย ดอยหลวงเชียงดาว ยอดดอยที่สูงเสียดฟ้า รอเวลาที่จะได้พาร่างกายกลับมาพักผ่อนอีกครั้ง และแน่นอนว่าการเดินทางครั้งนี้คงจะได้ติดอันดับ “สถานที่สุดเลิฟ” ของใครหลายๆคนที่อยากมาสูดอากาศยามเช้า ท่ามกลางสายหมอกที่หนาแน่แต่นุ่มนวลราวกับว่าจะห่อหุ้มเราไว้ยังไงอย่างนั้นเลย