ปิดเมนู
หน้าแรก

ชาวสวนยางหันมาเลี้ยงกุ้งล็อบเตอร์น้ำจืด สร้างรายได้กว่า 3 หมื่นบาทต่อเดือน

เปิดอ่าน 503 views

ชาวสวนยางหันมาเลี้ยงกุ้งล็อบเตอร์น้ำจืด สร้างรายได้กว่า 3 หมื่นบาทต่อเดือน

ชาวสวนยางหันมาเลี้ยงกุ้งล็อบเตอร์น้ำจืด สร้างรายได้กว่า 3 หมื่นบาทต่อเดือน

Workpoint TV

สนับสนุนเนื้อหา

ชาวสวนยางพารา จ.ตรัง ใช้พื้นที่ข้างบ้านทำฟาร์มเลี้ยงกุ้งล็อบเตอร์น้ำจืด สร้างรายได้ 20,000 – 30,000 บาทต่อเดือน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพงษ์ศักดิ์ จิตรใจภักดิ์ อายุ 45 ปี เกษตรกรชาว จ.ตรัง ใช้พื้นที่ว่างข้างบ้านเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ ก่ออิฐฉาบปูนขึ้นมาเป็นบ่ออนุบาลลูกกุ้งล็อบเตอร์น้ำจืดหรือกุ้งก้ามแดง โดยเริ่มเลี้ยงครั้งแรกเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว จนสามารถขยายพันธุ์เองได้จาก 1,000 ตัวเป็นหลายหมื่นตัว ราคาขายตั้งแต่ลูกกุ้งขนาดลงเดินจนถึงขนาดความยาว 4 – 5 นิ้ว

 

ราคากุ้งมีตั้งแต่ตัวละ 7 บาทจนถึง 80 บาท หากเป็นกุ้งเนื้อจะขายกิโลกรัมละ 350 – 500 บาท ส่วนพ่อแม่พันธุ์ตกคู่ละ 300 – 400 บาท สร้างรายได้ 20,000 – 30,000 กว่าบาทต่อเดือน ซึ่งความคิดเริ่มแรกในการเลี้ยงก็เพื่อต้องการเป็นรายได้เสริมจากอาชีพการทำสวนยางพารา และไว้บริโภคในครัวเรือน แต่ต่อมาเริ่มมีรายได้ที่ดีกว่า จึงหันมาเลี้ยงกุ้งก้ามแดงเป็นอาชีพหลัก เนื่องจากวิธีการเลี้ยงไม่ยุ่งยาก กุ้งแข็งแรงทนทาน โตเร็ว และได้ราคาดี สามารถนำไปประกอบอาหารหรือเลี้ยงไว้ในตู้ปลาเพื่อความสวยงาม

 

ปัจจุบันได้ขึ้นทะเบียนเป็นเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งก้ามแดงอย่างถูกต้องแล้ว และแม้จะมีคู่แข่งที่เพิ่มขึ้น แต่เชื่อว่าตลาดยังรองรับได้อีกมาก โดยเฉพาะในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศที่นิยมบริโภคเนื้อกุ้งของไทย ส่วนใหญ่จะส่งขายให้กับเกษตรกรเพื่อนำไปเลี้ยงมากกว่าการขายเพื่อนำไปเป็นอาหาร

สำหรับกุ้งก้ามแดงหรือกุ้งล็อบเตอร์น้ำจืด ตรงบริเวณก้ามจะมีรสชาติคล้ายเนื้อปู ส่วนตัวกุ้งเนื้อแน่น หวานหอมอร่อย จึงเป็นที่นิยมของผู้บริโภคที่อยากจะรับประทานกุ้งแม่น้ำแต่หาไม่ได้ สามารถรับประทานกุ้งก้ามแดงได้ในราคาที่ถูกกว่า และมีให้เลือกซื้อได้ตลอดทั้งปี

แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่อง : ชาวสวนยางหันมาเลี้ยงกุ้งล็อบเตอร์น้ำจืด สร้างรายได้กว่า 3 หมื่นบาทต่อเดือน