นมจากเนื้อไก่-นมข้าวอะมิโน แก้ปัญหาแพ้นม

© VOISIN/phanie/Phanie Sarl/Co นมจากเนื้อไก่-นมข้าวอะมิโน แก้ปัญหาแพ้นม

สถานการณ์โรคแพ้โปรตีนนมวัวของเด็กไทยยังเป็นปัญหาอยู่มาก ซึ่งที่ผ่านมา ศ.นพ.พิภพ จิรภิญโญ อาจารย์ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล และประธานศูนย์รักษาทารกแพ้โปรตีนนมวัวแห่งประเทศไทย ได้คิดค้นและวิจัย “นมจากเนื้อไก่” และ “นมข้าวอะมิโน” เพื่อแก้ไขปัญหาการแพ้นมทุกชนิดของต่างประเทศ ซึ่งในวันที่ 7 พ.ย. นี้จะจัดงานชุมนุมทารกแพ้โปรตีนนมวัว ครั้งที่ 2 เนื่องในโอกาสครบรอบ 15 ปี การผลิต “นมจากเนื้อไก่” และ 5 ปี “นมข้าว อะมิโน” ณ โรงพยาบาลศิริราช

ศ.นพ.พิภพ อธิบายว่า โรคแพ้โปรตีนในนมวัวเกิดขึ้นกับทารกในหนึ่งขวบปีแรก จนถึงอายุ 2 หรือ 3 ขวบจะหายได้เอง มีอุบัติการณ์ประมาณร้อยละ 3 ของทารกแรกเกิด ซึ่งจากการที่ทารกแรกเกิดในประเทศไทยมีปีละ 800,000 ราย จึงพบโรคนี้ได้ประมาณปีละ 25,000 ราย

ทารกอาจจะมีอาการด้านใดด้านหนึ่ง หรือ หลาย ๆ ด้าน ที่มีอาการเรื้อรัง ดังนี้ 1. อาการทางเดินหายใจ โดยอาจจะเป็นหวัด คัดจมูก หรือ ไอเรื้อรัง บางครั้งอาจจะเป็นปอดอักเสบได้บ่อย 2. อาการทางระบบทางเดินอาหาร เช่น อาเจียนเรื้อรัง โรคกรดไหลย้อน ปวดท้องเรื้อรัง ท้องผูก หรือ ท้องเสียเรื้อรัง 3. อาการทางผิวหนัง คือ เป็นผื่นลมพิษ หรือผื่นคันเรื้อรัง และ 4. อาการเบื่ออาหาร หรือ เลี้ยงไม่โต

การรักษาตามมาตรฐานต่างประเทศต้องเปลี่ยนจากนมผงเป็นนมพิเศษ ซึ่งต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศ โดยมี 2 กลุ่มคือ กลุ่มที่ 1 มีโปรตีนนมวัวที่ย่อยละเอียด ราคา 500 บาท ต่อ 1 กระป๋องปอนด์ กลุ่มที่ 2 เป็นนมกรดอะมิโน ราคา 1,500 บาท ต่อ 1 กระป๋องปอนด์ ซึ่งทารกที่เป็นโรคนี้จะต้องดื่มนมเหล่านี้ประมาณ 12 เดือน จึงจะค่อย ๆ หายจากโรคนี้

โดยปกติทารกจะดื่มนมประมาณ 7 กระป๋องปอนด์ต่อเดือน โดยเฉลี่ยจะดื่มนมที่ใช้รักษานี้ประมาณ 12 เดือน ถ้าใช้นมกลุ่มที่ 1 ผู้ปกครองจะต้องเสียเงินซื้อนมนี้มากกว่าปกติ 2 เท่า และถ้าใช้นมกลุ่มที่ 2 ผู้ปกครองจะต้องเสียเงินซื้อนมมากกว่าปกติ 7 เท่า

นอกจากนี้ยังมีทารกอีกจำนวนมากที่แพ้นมชนิดที่ 1 จึงจำเป็นต้องใช้นมชนิดที่ 2 ซึ่งมีราคาแพงมาก และมีทารกมากกว่า 50 รายที่มารับการรักษาที่โรงพยาบาลศิริราช แพ้นมทั้งชนิดที่ 1 และชนิดที่ 2 จึงไม่มีนมใด ๆ ที่จะรักษาได้

จึงทำให้เกิดการผลิต “นมจากเนื้อไก่” และ “นมข้าวอะมิโน” เพื่อแก้ไขปัญหาทุกปัญหา ทั้งเรื่องราคาและการแพ้นมทุกชนิดของต่างประเทศ

ตั้งแต่ปี 2542 จนถึงปัจจุบันเป็นระยะเวลา 15 ปี มีทารกประมาณ 1,000 ราย ที่ได้รับการรักษาโรคแพ้โปรตีนนมวัวด้วยนมจากเนื้อไก่ และตั้งแต่ปี 2552 จนถึงปัจจุบันเป็นระยะเวลา 5 ปี มีทารกประมาณ 300 รายได้รับการรักษาโรคแพ้โปร ตีนนมวัวด้วยนมข้าว อะมิโน

โดยเฉลี่ยทารกที่ได้รับการรักษาด้วยนมจากเนื้อไก่ จะดื่มนมประมาณ 12 เดือน ส่วนทารกที่ได้รับการรักษาด้วยนมข้าวอะมิโน จะดื่มนมประมาณ 6 เดือน ก่อนที่จะเปลี่ยนมาดื่มนมจากเนี้อไก่ ซึ่งพบว่า ทารกส่วนใหญ่มีการเจริญเติบโตเป็นปกติเช่นเด็กทั่วไป ไม่ค่อยเจ็บป่วยใด ๆ และทารกส่วนใหญ่จะหายจากโรคแพ้โปรตีนนมวัวใน 1 ปีหลังการรักษา

ถ้าไม่มีนมทั้ง 2 ชนิดนี้ ผู้ปกครองของทารก 1,300 รายนี้ จะต้องจ่ายค่ารักษาโดยการซื้อนมกรดอะมิโนจากต่างประเทศเป็นเงินจำนวนมาก ดังนั้นนมจากเนื้อไก่และนมข้าวอะมิโน จึงช่วยผู้ปกครองของเด็กทารกเหล่านี้ประหยัดเงินมากกว่า 100 ล้านบาท และช่วยประเทศชาติประหยัดเงินตราที่จะออกสู่ต่างประเทศ.

นวพรรษ บุญชาญ : รายงาน

สนับสนุนเนื้อหาโดย เดลินิวส์

sv-auto.com.ua